svasdssvasds

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

พุทธศาสนิกชน-ศิษยานุศิษย์นับแสนอาลัยร่วมส่ง "หลวงพ่อคูณ"ครั้งสุดท้าย ก่อนมีพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารจริงเมื่อเวลา 22.15 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ครอบครัวสุดปลาบปลื้มที่ประชาชนจำนวนมากมาร่วมส่งหลวงพ่อคูณครั้งสุดท้าย

ภาพพิธีถวายเพลิงจริง สรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างในเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ ณ ฌาปนสถานเมรุชั่วคราว วัดหนองแวง พระอารามหลวง บนเกาะกลางน้ำหลังพุทธมณฑลอีสาน เมื่อเวลา 22.15 คืนที่ผ่านมา

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

โดยมีพระพรหมมังคลาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 วัดไตรมิตรวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานจุดเตาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ และมี และมี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองศาสตราจารย์นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล พลตรี สมชาย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมธานนท์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นจุดลูกหนูเพลิง และมีพระสงฆ์ 4 รูป สวดยอดมุขทำนองอีสานหน้าไฟ

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

ทั้งนี้ระหว่างการประกอบพิธีถวายเพลิง ประชาชนโดยรอบได้หลั่งไหลฝ่าด่านของทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ามานั่งอยู่รอบฌาปนสถานเพื่อชมพิธีถวายเพลิง

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

ซึ่งทันทีที่เริ่มจุดไฟถวายเพลิง และ จุดไฟลูกหนู

ทั้งหมดต่างพนมมือ และ กล่าวคำว่า สาธุ รวมถึงถ่ายภาพและคลิป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก กระทั่งเปลวเพลิงได้โหมลุกไหม้ตั้งแต่ยอดบุษบก และเข้าสู่หัวนก ลำตัวนก จนมอดไหม้ทั้งหมดไปพร้อมกับสรีรสังขารหลวงพ่อคูณที่อยู่ภายในเตาเผา

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นในเวลา 18.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการประกอบพิธี ทอดผ้ามหาบังสุกุล ในการถวายเพลิงสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

โดยหลังจากพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุลแล้วเสร็จ ได้มีพิธีการฆ่านกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ ตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณอีสาน ที่เชื่อว่านกหัสดีลิงค์สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้

ทั้งนี้ เมื่อนางสีดาใช้ธนูยิงเข้าที่ลำตัวของนกหัสดีลิงค์ และอาญา 4 และแม่ทัพช่วยกันใช้หอกแทงนกจนตาย ได้มีอุจจาระออกมาเป็นผลไม้มงคลให้นางสีดานำกลับไปที่เมืองตัวเองที่อุบลราชธานี

โดยพิธีดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งผลไม้ที่ออกมาทางด้านหลังนั้นจะอุปมาเป็นอุจจาระของนกหัสดีลิงค์ ถือว่าเป็นของมงคลที่ทางครูบาอาจารย์ได้หลงเหลือไว้ให้ชิ้นสุดท้าย และของมงคลเหล่านี้จะสงวนเก็บไว้ภายในอนุสรณ์สถานพร้อมอัฐบริขารต่างๆ ของหลวงพ่อคูณต่อไป

ขณะเดียวกัน โซเชียลยังมีการแชร์ภาพที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งนำมาโพสต์ เป็นภาพขณะพิธีถวายเพลิงจริง สรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างในเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ที่มีรูปร่างคล้ายหลวงพ่อคูณ กำลังยืนดูลูกหลานอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีการติดแฮชแทก #ภาพนี้มองแล้วขนลุก​ เหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่คูณท่าน ยืนมองลูกหลานเป็นครั้งสุดท้าย #ขอให้โชคดีนะไอ้ลูกหลานเอย

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

จากนั้น เป็นการรำสักการบูรพาจารย์ พระเทพวิทยาคม โดยนักศึกษาของคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 99 คน ร่วมกัน ฟ้อนรำสังสการบูรพาจารย์ ประกอบเพลงโคราช ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อสรรเสริญ และรำลึกถึงบุญบารมีของหลวงพ่อคูณ

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

โดยการรำดังกล่าว เป็นพิธีฟ้อนรำเพื่อส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ตามความเชื่อพื้นบ้าน เป็นเวลาประมาณ 6 นาที จากนั้นบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และนักศึกษาแพทย์สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งหมด ได้เข้าสู่ลานมณฑลพิธีจนเต็ม เพื่อขอขมาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ

คนทะลักเมรุกราบส่ง "หลวงพ่อคูณ" ขึ้นสู่นิพพาน

สำหรับพิธีถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ นั้น คุณยายคำมั่น วงกาญจนรัตน์ น้องสาว และ คุณตาซ่อน ฉัตรพลกรัง น้องชายของหลวงพ่อคูณ พร้อมคนในครอบครัว ได้เดินทางมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้า โดยคุณยายคำมั่น ระบุว่า รู้สึกปลื้มที่มีประชาชนจำนวนมากมาร่วมส่ง และต่อบุญบารมีให้หลวงพ่อคูณ ซึ่งเชื่อว่าด้วยศรัทธาบุญของทุกคนจะส่งหลวงพ่อสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

อย่างไรก็ตามภายหลัง โซเชียลได้มีการแชร์ภาพขณะอยู่ในช่วงพิธีเผาสรีรสังขาร "หลวงพ่อคูณ" จู่ๆได้เกิดสิ่งน่าอัศจรรย์ขึ้นท่ามกลางสายตาของเหล่าประชาชนเรือนแสน ซึ่งปรากฏให้เห็นกลุ่มควันที่กำลังลอยสู่ท้องฟ้า เป็นรูป "นกหัสดีลิงค์" นับได้ว่าเป็นบุญตาที่ได้เห็นครั้งแรก ของลูกของหลานจริงๆ

นอกจากนี้ ในเวลา 11.25 น.มีรายงานว่า พบนกนานาชนิดกว่าร้อยตัว บินวนเวียนอยู่รอบเมรุลอยนกหัสดีลิงค์จากทิศเหนือไปทิศใต้ จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ประมาณ 10 นาที แล้วหายไป สร้างความประหลาดใจกับประชาชนที่มาร่วมพิธีกว่า 3 แสนคนเป็นอย่างมาก เพราะปกติไม่เคยเห็นฝูงนกดังกล่าวมาก่อน ศิษยานุศิษย์หลายคนเชื่อว่า นกนานาชนิดที่บินวนเวียนในสถานที่ดังกล่าวเพื่อมาส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณ

related