รวบแล้ว! แก๊งโจ๊ยกพวกตีกันในรพ.ประทาย แจ้งข้อหาหนักไม้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาเดินทางไปที่ สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ยกพวกตีกันภายในโรงพยาบาลประทาย เมื่อกลางดึกวันที่ 29 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา หลังจากดื่มฉลองในงานคอนเสิร์ตหารายได้ซื้อเครื่องดนตรีให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งของ อ.ประทาย แล้วทะเลาะวิวาทกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และได้นำตัวส่งมารักษาที่โรงพยาบาลทั้ง 2 ฝ่ายเจอกันที่โรงพยาบาล จึงยังมีอารมณ์ค้างกันอยู่และได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง สร้างความโกลาหลให้กับผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยในโรงพยาบาลเป็นอย่างมากจนเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาล รวมทั้งทหารและตำรวจ ต้องเข้ามาระงับเหตุ

อีกแล้วแก๊งโจ๋ยกพวกถล่มคู่อริในโรงพยาบาล

ล่าสุด วันนี้ (30เมษายน 2562) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่มได้แล้วทั้งหมด 19 คน โดยเป็นกลุ่มวัยรุ่นจาก อำเภอชุมพวง 9 คน และกลุ่มอำเภอประทาย 10 คน มีตั้งแต่อายุ 13-28 ปี ซึ่งทั้งหมดรับสารภาพว่าดื่มสุราแล้วเมา จึงก่อเหตุขึ้นโดยที่ไม่ได้มีเรื่องผิดใจกันมาก่อนแต่อย่างใดรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายแพทย์ ชยพล สุขโต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประทาย เล่าว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุได้มีกลุ่มวัยรุ่นของ อ.ประทาย ได้เข้ามาทำการรักษาจากเหตุถูกทำร้ายร่างกายภายในงานคอนเสิร์ตขณะที่แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลอยู่นั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นจาก อ.ชุมพวง ที่ได้รับบาดเจ็บจะเข้ามาทำการรักษาเช่นกัน ระหว่างนั้นจึงเกิดเหตุตะลุมบอนกันเกิดขึ้น โชคดีที่ไม่มีสิ่งของภายในโรงพยาบาลได้รับความเสียหายและไม่มีคนไข้อื่นถูกลูกหลงไปด้วยมีเพียงเสียงที่ดังเอะอะโวยวายที่ดังไปทั่วโรงพยาบาลสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกด้าน

พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้ประสานกับทุกโรงพยาบาลในจังหวัดนคราชสีมา ว่าถ้ามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลให้ทางโรงพยาบาลรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ไปรักษาความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกส่วนผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกันเข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์ หรือสำนักงาน ในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้น เมื่อผู้มีสิทธิ์ที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออกในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไป ตาม ป.อาญา มาตรา 83, 364 และ 365 (2) (3) ซึ่งจะถูกลงโทษทางกฎหมายในทุกด้านที่ทำความผิด เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป