ระบาดไม่หยุด! ชาวบ้านเชื่อจริง “บัตรพลังงาน” รักษาสารพัดโรค

มีข่าวแพร่สะพัดตามโซเชียลมีเดีย ว่า ในห้วงที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งเข้าไปโฆษณาชวนเชื่อให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้ซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อรักษาโรค และสมัครเป็นสมาชิกเพื่อจะได้ใช้สิทธิขายบัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าวต่อ โดยทางบริษัทมีค่าคอมมิชชันเป็นค่าตอบแทนให้

พนักงานได้โน้มน้าวว่า บัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าวสามารถใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ เพียงแค่นำบัตรไปแตะบริเวณที่ปวด หรือนำแก้วน้ำไปวางบนบัตร และนับ 1-10 จากนั้นให้ดื่มน้ำในแก้ว และอีกวิธีหนึ่งคือการนำเอาบัตรไปจุ่มในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม สามารถแก้อาการปวดให้ทุเลาลงได้ มีชาวบ้านหลงเชื่อมากกว่า 20 ราย พากันซื้อสมาร์ทการ์ดในราคาบัตรละ 1,100 ถึง 1,500 บาท

ล่าสุด ! เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวทราบว่าจะมีการนัดซื้อขายบัตรสมาร์ทการ์ดที่หมู่บ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จึงพากันไปตรวจสอบข้อมูล นางทองศรี วงษ์ไชยเวทศ์ อายุ 66 ปี หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่หลงเชื่อซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดเล่าว่า ซื้อมาในราคา 1,100 บาท จากที่เคยมีอาการปวดหลัง และน้ำไหลออกมาจากหู เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วก็ไม่หาย แต่เมื่อใช้บัตรดังกล่าวอาการทุเลาลงทันที

ขณะที่นายทวี เพียอินทร์ ชาวบ้าน บ้านศาลาดิน ยืนยัน บัตรดังกล่าวสามารถใช้รักษาอาการปวดหลังของตนได้ ก่อนจะได้บัตรนี้มามีพนักงานจากบริษัทแห่งหนึ่งมาชักชวนให้เข้าอบรม และบรรยายสรรพคุณของบัตรพร้อมกับสาธิตวิธีการใช้ให้ดู ระหว่างการสาธิต พนักงานคนเดียวกันได้นำบัตรมาแตะที่ศรีษะของตน รู้สึกมีอาการชา แต่พอนำบัตรนั้นออกอาการชาก็หายเป็นปลิดทิ้ง /จึงตัดสินใจสมัครครั้งแรกเป็นเงิน 4,400 บาท ได้บัตรมา 5 ใบ หลังจากนั้นจึงนำมาบอกต่อให้กับเพื่อนบ้านที่สนใจ ขายในราคา 1,100-1,500 บาท

ขณะที่นายหนูเพียร นารีจันทร์ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านศาลาดิน บอกว่า บัตรพลังเริ่มเข้ามาระบาดในหมู่บ้าน และหมูบ้านใกล้เคียงมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่านอกจากจะรักษาอาการป่วยให้ทุเลาลงได้ ยังมีรายได้จากการขาย ซึ่งภรรยาตนก็ซื้อบัตรนี้มาใช้ ก็ได้ผลจริงตามที่โฆษณา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าบัตรดังกล่าวมีขนาดเท่ากับ ATM ทั่วไปบนบัตรระบุรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ LA Genius จากบริษัท PT LIVING ACTIVE GENIUS INDONESIA นอกจากนี้บนบัตรยังมี QR code แต่เมื่อสะแกนไปไม่พบข้อมูลใดๆ โดยที่บัตรดังกล่าว มี 2 ชนิด คือสีแดงและสีฟ้า-เขียว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าบัตรสีฟ้า-เขียวจะมีพลังมากกว่า อย่างไรก็ตาม

ล่าสุด ! เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของบัตรดังกล่าว โดยพบว่าต้นต่อมาจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่าทางบริษัทที่ผลิตมีการโฆษณาสรรพคุณบัตรดังกล่าวไว้ว่า เมื่อนำบัตรไปแปะไว้ที่เท้าที่เป็นแผล หรือนำไปแช่น้ำแล้วเอาเท้าแช่จะช่วยรักษาอาการได้ รวมถึงถ้านำไปแปะไว้ที่ข้าง ๆ มิเตอร์ไฟฟ้าก็จะช่วยลดค่าไฟ นำไปติดที่รถจะช่วยลดค่าน้ำมัน หรือนำไปแช่ในตู้เย็นจะทำให้ผักที่แช่อยู่ไม่เน่าเสีย