ผบก.ปคบ.แจงส่วยยาลดความอ้วนกาฬสินธุ์ คดีเก่า 3ปีที่แล้ว-แจ้ง 7 ข้อหาเจ้าของโรงงาน

ความคืบหน้าการขยายผลจากกรณีที่มีหญิงสาวใน จ.อ่างทอง เสียชีวิต เนื่องจากกินยาลดความอ้วน โดยเปิดโรงงานผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริม ยาไวอาก้า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่เภสัชจากสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และสาธารณสุขอำเภอต่างๆ ยังคงช่วยกันนับและคัดแยกของกลาง เบื้องต้นของกลางที่ตรวจยึดจากจุดแรกที่เป็นโรงงานผลิตมีจำนวนกว่า 4 ล้านเม็ด จุดที่ 2 โกดังเก็บสินค้าไม่มีเลขที่มีจำนวนกว่า 8 ล้านเม็ด

และจุดที่ 3 โกดังที่เปิดเป็นรีสอร์ท อีกกว่า 3 ล้านเม็ด ซึ่งเบื้องต้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดแยกและตรวจนับอย่างละเอียด เพื่อนำส่งไปตรวจพิสูจน์ ขณะที่ นางวสภัสสร สุลำนาจ ผู้ต้องหาในคดีนี้ พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปส่งฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหา 7 ข้อหา

ด้าน พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กล่าวว่า กรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีเจ้าหน้าที่ ปคบ. เข้าไปมีส่วนสนับสนุนเจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน โดยได้รับเงินเป็นค่าส่วยรายเดือนๆละ 20,000 บาท ในเรื่องนี้ได้มีการประสานข้อมูลไปยัง พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.กาฬสินธุ์ ในฐานะเจ้าพนักงานท้องที่มีการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ทำให้ทราบข้อเท็จจริงที่ นางวสภัสสร สุลำนาจ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

โดยในครั้งนั้น ตำรวจ กก.4บก.ปคบ.ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมบุตรสาว ซึ่งเป็นเภสัชกรในข้อกล่าวหา ร่วมกันขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต และอีกหลายข้อหา ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามกระบวนการไปแล้ว และถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมารับตำแหน่ง ผมในฐานะหัวหน้าหน่วยฯ ก็จะทำหน้าที่ให้ดีสุด โดยเฉพาะจะปราบปราม ข้าราชการที่ไม่ดีออกไปให้หมด ยืนยันว่า บก.ปคบ. ไม่มีนโยบายเรียกรับผลประโยชน์