กรมชลฯ วางแผนจัดการน้ำลุ่มน้ำมูล เร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขง

กรมชลประทานเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลตอนล่างลงสู่แม่น้ำโขง หวังลดปริมาณน้ำในแม่น้ำชีและลุ่มน้ำสาขาทางตอนบน ระดมเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง

กรมชลฯ วางแผนจัดการน้ำลุ่มน้ำมูล เร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขง

วันที่ 6 ส.ค. 60 – นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำมูลของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านบริเวณ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดรวมน้ำของแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีไหลลงสู่แม่น้ำมูลอย่างต่อเนื่อง และจากการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีตอนล่างบริเวณ จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว

ส่วนบริเวณ จ.ยโสธร ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำจากลำปาวที่ไหลลงสู่แม่น้ำชีมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำชี บริเวณ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร มีแนวโน้มลดลงในระยะต่อไป

ทั้งนี้ กรมชลประทานได้วางแนวทางในการเร่งระบายน้ำในลุ่มแม่น้ำมูล ให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้เร็วขึ้น โดยส่งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 50 เครื่อง, เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 28 เครื่อง และรถขุด จำนวน 5 คัน ซึ่งในช่วงเย็นวานนี้ (5 ส.ค.) ได้เริ่มติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 22 เครื่อง บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี M7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย ในเกณฑ์ 2,640 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในขณะที่น้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำโขงยังระบายได้อยู่ในเกณฑ์ 2,740 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

อย่างไรก็ตาม การเร่งระบายน้ำแม่น้ำมูลตอนล่างลงสู่แม่น้ำโขงได้เร็วขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีและลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลที่อยู่ทางตอนบน สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูลได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นผลดีต่อสถานการณ์น้ำท่วมริมตลิ่งในลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำสาขา มีระดับน้ำลดลงในระยะต่อไป