อุทยานฯหมู่เกาะพีพี ทวงคืนผืนป่ารุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ 60 ไร่เศษ

วันนี้ (19มิ.ย.61)  นายแสงสุรี ซองทอง พร้อมด้วยนายพัฒธพงศ์ การดี สองผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสังกัดเดียวกัน ร่วมกับกองพันทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 และสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ รวม 80 นาย บังคับใช้มาตรา 22 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าทำการรื้อถอนตัดฟันพืชผลอาสิน ที่ถูกนายทุนอิทธิพลร่วมกับราษฎรในพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านเขากลม ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร โดยการปลูกต้นยางพารา ต้นสะตอ และต้นทุเรียน ในเขตป่าสวนแห่งชาติป่าแหลมหางนาคและป่าอ่าวนาง เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี

โดยปฎิบัติการทวงคืนผืนป่ากลับมาเป็นของรัฐ ได้ตรวจยึดพื้นที่ 60 ไร่ 3 งาน 20 ตารางวา พร้อมด้วยต้นยางพารา 3,121 ต้น ต้นสะตอ 10 ต้น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2558 และได้แจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ ในคดีอาญาที่ 1088 / 2558  โดยไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่แต่อย่างใด ดังนั้นในวันนี้ทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จึงสนธิกำลังเข้าตัดฟันต้นยางพารา อายุ 8 – 12 ปี และต้นสะตอ 10 ต้น และต้นทุเรียน 5 ต้น

สำหรับพื้นที่ที่ถูกนายทุนอิทธิพลร่วมกับราษฎรในพื้นที่บ้านเขากลม ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เข้าไปบุกรุกปลูกพืชผลอาสิน และเตรียมการขอยื่นการออกเอกสารสิทธิการเข้าทำประโยชน์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญได้มีการขายที่ดินกันแล้ว โดยที่ยังไม่ได้ออกเอกสารสิทธิอีกด้วย ในราคาไร่ละ 1 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมองเห็นทัศนียภาพสวยงามย และยังเป็นผืนป่าแหล่งต้นน้ำธารสายสำคัญของต.หนองทะเล และต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งที่มีพันธุ์ไม้หายากในปัจจุบันได้แก่ ต้นกฤษณา ต้นหลาม ต้นหูยาง ต้นหลุมพอ และต้นกอ เป็นต้น