ชาวบ้านพบโลมาลายแถบ ขึ้นเกยหาดในพื้นที่ จ.สตูล จึงนำตัวส่งทีมสัตวแพทย์ทำการรักษา ล่าสุดแพทย์เผย โลมาตัวนี้ทุกโรครุมเร้า ระบบหายใจที่รุนแรง สำลอกอาหาร และชักจนตัวเกร็ง ตายในที่สุด โดยทีมแพทย์อยู่ระหว่างนำส่งวินิจฉัย
(24 ต.ค. 61) หลังทีมสัตวแพทย์จากสถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง และทีมศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอันดามันตอนล่าง (สตูล) กรมประมง ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล พยายามช่วยยื้อชีวิตของโลมาลายแถบ เพศผู้ ความยาว 2 เมตรน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัมไว้ หลังชาวบ้านพบโลมาตัวดังกล่าวเกยหาดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2561 ในสภาพอ่อนเพลียและไม่พบบาดแผลใดๆ โดยนำตัวเข้ามาพักฟื้นที่บ่ออนุบาลนั้น
ล่าสุดได้รับการยืนยันจาก นายสัตวแพทย์ ปฐมพงษ์ จงจิตต์ แพทย์ที่ร่วมรักษาและเฝ้าอาการโลมาลายแถบอย่างใกล้ชิด โดยประคองอาการมาโดยตลอดแต่ก็ไม่ดีขึ้นจนไม่สามารถยื้อชีวิตโลมาต่อไปได้ หลังโลมามีอาการทางระบบหายใจที่รุนแรง สำลอกอาหาร และชักจนตัวเกร็งก่อนจะจากไปในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ซึ่งสาเหตุการตายในครั้งนี้ไม่สามารถระบุซึ่งที่ผ่านมาพบว่าอาการลักษณะนี้มีหลายโรคที่เป็นสาเหตุให้โลมาตายต้องมีการวินิจฉัยอีกครั้ง
ซึ่งหลังการตายของโลมาลายแถบจะมีการเคลื่อนย้ายไปทำการวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้นอีกครั้งถึงสาเหตุการณ์ป่วยจนเสียชีวิตที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอันดามันตอนล่างจ.ภูเก็ต
สำหรับธรรมชาติของโลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอยู่ในทะเลลึก การว่ายน้ำเข้าเกยหาดบ่งบอกถึงสภาพร่างกายที่เจ็บป่วยและอ่อนแอเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของศัตรูมากกว่าการพลัดหลงจากฝูง หากประชาชนพบเห็นเข้าช่วยเหลือสิ่งที่ต้องระลึกคือความปลอดภัยที่อาจเกิดโรคเข้าสู่คนได้ อาทิ เชื้อวัณโรค ควรป้องกันด้วยการใส่หน้ากากปิดจมูกปาก ถุงมือ การเข้าช่วยเหลือควรเข้าด้านข้างเพื่อให้จมูกโลมาพ้นเหนือน้ำ และควรกันฝูงชนเพราะโลมาเป็นสัตว์ที่เครียดได้ง่าย