อัพเดทสถานการณ์ "หัด" ล่าสุด

สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคหัด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี พบว่า วานนี้(8.พ.ย.) มีเด็กวัย 9 เดือน กำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอยะรัง แต่อาการสาหัส ซึ่งนอกจากจะเป็นโรคหัดแล้ว ยังมีภาวะแทรกซ้อนปอดบวมหายใจไม่สะดวก จึงต้องรีบนำตัวไปรักษาต่อ ที่ รพ.ปัตตานี ก่อนจะเสียชีวิตลง เป็นรายที่ 5 นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ครอบคลุมทุก 12 อำเภอ รวมผู้ป่วยสะสม 600 ราย ส่วนอำเภอที่มีผู้ป่วยมากอับดับ 1 คือ อำเภอยะรัง

ด้านนายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะรัง ได้ทำแผนนำ 4 เสาหลัก ประกอบด้วย กำนัน ,อีหม่าม ,นายก อบต.และสาธารณะสุข ปิดพื้นที่ปูพรมฉีดวัคซีนในเด็ก พร้อมสร้างความเข้าใจกับผู้ที่ไม่ยอมรับวัคซีนหัด โดยนำกำลังลงพื้นที่ตลอดทั้งวันจนถึงวันที่ 15 พ.ย. ทั้งนี้พบผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 5 ราย แบ่งเป็น อ.ยะรัง 4 ราย และอำเภอมายออีก 1 ราย

ส่วนที่จังหวัดยะลา มีจำนวนผู้ป่วยกว่า 1,300 ราย เเละเสียชีวิตไปแล้ว 10 ราย ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคหัดหนักที่สุดในประเทศไทย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ต้องใช้มาตรการต่างๆ เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กวัย 9 เดือนถึง 5 ขวบ ได้รับวัคซีนกว่าร้อยละ 95 เเต่ขณะนี้คงเหลือกว่า 1,000 ราย

ล่าสุดเกิดวิกฤติวัคซีนโรคหัดขาดแคลน ทางจังหวัดไม่สามารถส่งมอบให้เพียงพอกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสำรองไว้ใช้ในพื้นที่จำเป็นเท่านั้น สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคหัดใน จ.ยะลา พบผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงปัจจุบัน จำนวน 1,139 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่นอนรักษาตัว จำนวน 85 ราย และผู้สัมผัสที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอีก 1,214 ราย