เปิดแล้ว! ไลฟ์สดเกาะติดชีวิต “มาเรียม-ยามีล” 24 ชั่วโมง

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำโดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำโดยนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุยานฯ และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดการไลฟ์สดกิจกรรมการดูแลอนุบาลมาเรียม และยามีล 2 พะยูนน้อยแห่งเกาะลิบง จ.ตรัง และ จ.ภูเก็ต ผ่านกล้องพร้อมกันทั้งหมด 8 ตัว โดยที่ จ.ตรังมีจำนวน 7 ตัว ที่จะเห็นพื้นที่โดยรอบของแหล่งอนุบาล ทั้งแปลงหญ้าทะเล การป้อนนม หรือพาออกกำลังกาย และ จ.ภูเก็ต 1 ตัว ที่จะไลฟ์สดยามีล ซึ่งสามาถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก และเว็ปไซต์ของทช.ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยการถ่ายทอดสดกิจวัตรประจำวันของ มาเรียม จะมีไปจนกว่าพะยูนน้อยจะโตอละออกสู่ธรรมชาติได้ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการศึกษาทางธรรมชาติแก่สังคมภายนอกและทั่วโลก ในการอนุบาลสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทย ซึ่งหากดูผ่านเว็ปไซต์ จะมีข้อมูลให้ได้ศึกษาและทำความรู้จักกับสัตว์ทะเลหายากหลายประเภทด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะอัพข้อมูลให้ได้ร่วมศึกษาพร้อมๆ กันทุกวัน ทั้งกราฟแสดงข้อมูลความเจริญเติบโตของมาเรียม การกินอาหาร การจดบันทึกการตรวจรักษาร่างกาย บันทึกการพบเห็นมาเรียม บันทึกการเกิดอุบัติเหตุของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล สถิติทั้งหมดจะมีการบันทึกได้ จะนำไปลงในแบบแผนที่แสดงพฤติกรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลทางวิชาการที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก เพราะการอนุบาลพะยูนในระบบเปิดในธรรมชาติของตัวเองเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

นอกจากนี้ในการทำงานของทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครต้องเสี่ยงภัยกับการได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนกล่อง และปลากระเบน โดยทางกรม ทช.ก็จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลรายละ 5,000 บาท และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับมาเรียม – ยามีล 2 พะยูนน้อยไว้ใน “โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์” ทำให้คนไทยตื่นตัวกับการอนุรักษ์พะยูนและทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนั้นทางกองทัพเรือเตรียมส่งทีมแพทย์มาร่วมเสริมทัพการทำงานในพื้นที่ด้วย

ด้านนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุยานฯ กล่าวว่า เมื่อมีมาเรียมเข้ามายิ่งต้องวางมาตรการดูแลเข้ม ทั้งการลาดตระเวนเฝ้าระวังพื้นที่แหล่งอนุบาลมาเรียม การวางทุ่นกำหนดเขตคุ้มครอง และเตรียมจะวางทุ่นเพิ่มเพื่อคุ้มครองพื้นที่ โดยจะส่งเรือลาดตระเวนมาเพิ่มเติมอีก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ทำงานลาดตระเวนป้องกันเรือไม่ให้เข้ามาในพื้นที่คุ้มครอง และจะส่งทีมสัตวแพทย์มาร่วมสนับสนุนการทำงานกับทีมสัตวแพทย์กรม ทช.ซึ่งกรม ทช.มีความชำนาญในการดูแลสัตว์น้ำอยู่แล้ว แต่ทางกรมอุทยานฯ จะส่งทีมแพทย์มาช่วยเสริมและร่วมเรียนรู้การทำงานไปด้วย