จ่อใช้ยาแรงคุมเดินเรือทั่วประเทศ "ยึดใบอนุญาต" เหตุสปีดโบ๊ทชนกันที่ภูเก็ต
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการเจ้าท่า เร่งสอบข้อเท็จจริงเรือสปีดโบ๊ทชนกันที่ภูเก็ต พร้อมเร่งเยียวยาค่าเสียหาย กำชับใช้ยาแรงคุมการเดินเรือทั่วประเทศ หากไม่ปฎิบัติตามถูกยึดใบอนุญาต
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีเรือสปีดโบ๊ท ALP111 และเรือสปีดโบ๊ท ปาหนัน 5 ชนกันที่ภูเก็ต ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เร่งตรวจสอบพื้นที่ และสภาพเรือสปีดโบ๊ท ALP111 และเรือสปีดโบ๊ท ปาหนัน 5 ที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว เบื้องต้นสั่งการให้สอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นเรื่องจากมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ
ส่วนผู้ขับรถทั้ง 2 ลำได้ถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ และถูกดำเนินคดีทันทีเนื่องจากทำผิด ขณะเดียวกันได้เร่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาให้กับผู้เสียหายทุกฝ่ายอย่างเร็วที่สุด รวมถึงสั่งการให้กรมเจ้าท่า เข้มงวดในการควบคุม ตรวจสอบมาตรฐานทั้งคนขับ และ เรือที่ให้บริการมากขึ้น
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชายชาวรัสเซีย รวม 2 ราย มีผู้บาดเจ็บ 21 ราย เบื้องต้นสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวด และกำหนดให้เดินเรือในช่วงร่องน้ำดังกล่าวที่ความเร็วไม่เกิน 5 น็อต เนื่องจากร่องน้ำแคบและตื้นเขิน
พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้กำชับคนขับเรือปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะสั่งให้งดใช้ใบประกาศนียบัตรนายท้ายเรือเป็นเวลา 2 ปี และให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต จัดการอบรมเพิ่มเติมแก่คนขับเรือ(นายท้ายเรือ) เพื่อให้เกิดความตระหนักในความปลอดภัยและมีความชำนาญในการใช้ร่องน้ำและปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 (ตรัง) นำเรือบรรทุกรถขุดพร้อมเรือบรรทุกดินมาขุดลอก เพื่อแก้ไขร่องน้ำตื้นเขินและแคบในช่วงที่วิกฤติก่อน และกรมเจ้าท่าได้ของบประมาณในปี 64 ที่จะดำเนินการขุดลอกทั้งร่องน้ำโดยการจ้างเหมาต่อไป
สำหรับการเยียวยาเรือ ALP 111 ทำประกันไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย วงเงินค่ารักษา300,000 บาท กรณีเสียชีวิต (เด็ก) 500,000 บาท กรณีผู้ใหญ่ 1,000,000 บาท
ส่วนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นกรุ๊ป กับบริษัท Pegus มีประกันท่องเที่ยว ERV วงเงินค่ารักษาอยู่ที่ 500,000บาท แต่ไม่เกินจ่ายจริงในส่วนของเรือมีการประกันบุคคลที่3 ของ บริษัท วิริยะ ในวงเงิน 100,000 บาท สำหรับผู้เสียเชีวิต และวงเงิน15,000 บาท สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางบริษัทฯได้เข้ามาประสานกับทางตัวแทนเจ้าของเรือแล้ว และนักท่องเที่ยวประสงค์นำศพกลับประเทศ โดยทางบริษัททัวร์จะเป็นตัวแทนดำเนินเรื่องและจัดการต่อไป
