มทภ.4 จัดระเบียบเกาะสมุย สั่งตรวจผืนป่า ป้องกันไม่ให้บุกรุก
ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 10 ก.ค. 60 -- พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4, นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้, นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมถึงแนวทางการเข้าจัดระเบียบพื้นที่ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะการเข้าตรวจสอบผืนป่าบนเกาะสมุย ที่มีกลุ่มนายทุนเข้าทำผลประโยชน์ในพื้นที่บนเทือกเขา โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบว่า มีการครอบครองเอกสารสิทธิ์ว่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกผืนป่าของรัฐบนเกาะสมุย
แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 4 เป็นเพียงหน่วยที่จะเข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ในการจัดระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ อ.เกาะสมุย, อ.เกาะพะงัน รวมทั้งเกาะเต่า โดยให้หน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้ถือกฎหมายโดยตรงประสานกำลังขอกำลังในการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ โดยให้ความสำคัญเรื่องของป่าธรรมชาติบนเกาะสมุย ที่มีการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ รวมถึงการเข้าทำสวนผลไม้บนพื้นที่เนินเขาสูง ที่ต้องให้หน่วยงานเจ้าของพื้นที่รับไปดำเนินการ เช่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เร่งเข้าตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ผู้ที่เข้าทำประโยชน์ว่า มีการถือครองเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผืนป่าของรัฐบนเกาะสมุยถูกบุกรุกทำลาย ส่วนชาวบ้านที่เข้าทำผลประโยชน์อยู่ก่อนหน้านี้ เช่น การทำสวนผลไม้ ที่มีการปลูกผลไม้มานานแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะต้องตรวจสอบเป็นราย ๆ ไป เพื่อไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้มีการเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าที่เกาะพะงันมาแล้วเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา จากนี้กรมป่าไม้จะดำเนินการเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบนพื้นที่เกาะสมุย โดยเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เชื่อว่า เป็นพื้นที่ผืนป่าของรัฐ เช่น พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บนเกาะสมุย ว่ามีการบุกรุกเข้าทำประโยชน์บ้างหรือไม่ รวมถึงการเข้าตรวจบ้านพักตากอากาศที่มีการก่อสร้างบ้านพักบนเนินเขาสูง ว่า มีการถือครองเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้มีแนวทางในการดำเนินการ โดยจะดูว่า ในแต่ละพื้นที่มีชาวบ้านเข้าทำประโยชน์ ก่อนที่จะกฎหมายประกาศใช้หรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจแยกเป็นแปลง ๆ ไป
ด้าน อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ส่วนชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่ต้องกังวลใจ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ก็สามารถนำเอกสารสิทธิ์มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วพบว่า มีการเข้าทำประโยชน์ได้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ต้องดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว และกระทบต่อประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ที่มีการใช้พื้นที่ทำมาหากินอยู่ก่อนแล้ว
