ยิ้มแย้ม "ครูปรีชา" - "ลุงจรุญ" ไต่สวนคดีหวย30ล้าน ยังมั่นใจหลักฐานตัวเอง

ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี มีการนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหวย 30 ล้าน ในคดีที่ครูปรีชาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์และรับของโจร โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 22และ23 พฤศจิกายน 2561 เป็นการไต่สวน 2 นัดสุดท้าย

บรรยากาศในช่วงเช้า ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี ทนายษิทราเบี้ยบังเกิด เดินทางมาศาลพร้อมร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล และครอบครัว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไร้ท่าทีกังวลเหมือนการไต่สวนนัดที่ผ่าน โดยทนายษิทรา กล่าวว่า การมาศาลในนัดนี้ก็มาตามที่ศาลนัด เพื่อไต่สวนมูลฟ้องในส่วนของพยานที่เหลืออีกสองปาก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น นางปนัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว และ พลตำรวจตรีกฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่ได้วิตกกังวลใดๆ การไต่สวนก็คงจะเป็นไปตามขี้นตอนเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ส่วนจะใช้เวลาในการไต่สวนมากน่อยเพียงใด คงยังไม่สามารถบอกได้ แต่ยังไงก็คงจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันพรุ่งนี้ตามที่ศาลกำหนด

ทางด้านร้อยตำรวจโทจรูญและภรรยา ยังคงมีมีหน้ายิ้มแย้มและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในศาลทันที จากนั้น ทนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความของเจ๊บ้าบิ่น เดินทางมา พร้อมกับเจ๊บ้าบิ่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวว่าในวันนี้เดินทางเพื่อมาร่วมรับฟังการไต่สวนและมาให้กำลังใจ เจ๊เกียวกับครูปรีชาในการขึ้นให้การไต่สวน 2 นัดสุดท้าย

หลังจากนั้น ครูปรีชา ใคร่ครวญ เดินทางมาพร้อมกับทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส และนางปนัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว โดยทนายวรยุทธกล่าวว่า การเดินทางมาขึ้นศาลในวันนี้เป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในส่วนของพยานที่เหลืออีก 2 ปาก ซึ่งก็ มีในส่วนของพลตำรวจตรีกฤษณะทรัพย์เดชรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหลัก ซึ่งหากไต่สวนเสร็จก็จะเป็นในส่วนของเจ๊เกียวขึ้นให้การเป็นคนต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากการไต่สวนพยานสองปากที่เหลือเสร็จสิ้น ก็จะอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ หากรับฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ ก็จะต้องประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี แต่หากศาลไม่รับฟ้อง ทางฝ่ายครูปรีชาและตนก็จะต้องหารือว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่โดยรวมแล้ว ตนและครูปรีชา ยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี

โดยเจ๊เกียว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่มาในวันนี้ก็ไม่ได้หนักใจอะไรและพร้อมที่จะขึ้นให้การตามความเป็นจริง โดยส่วนตัวถือว่าพร้อมที่จะนำความจริงเข้าสู่ศาล จากนั้น ทั้งหมด จึงเดินทางเข้าไปในศาล

กระทั่ง เวลา 09.45 นาฬิกา พลตำรวจตรีกฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค7 ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า การเดินทางมาในวันนี้ มาตาม หนังสือของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่เชิญมาขึ้นให้การเป็นพยานในการนัดไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งตำรวจภูธรภาค 7 ได้เคยเข้าไปทำคดีนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจหรือไม่ในการเดินทางมาเป็นพยานในครั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจแต่อย่างใดเพราะการเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อให้ข้อมูลตามความเป็นจริงในส่วนที่ทางตำรวจภูธรภาค 7 และตนได้ร่วมทำคดีนี้มา ก่อนจะขอตัวขึ้นไปในห้องพิจารณาคดีเพื่อขึ้นให้การต่อไป