เพจฝรั่งก็มั่ว “ความรู้” 7 เรื่อง “เชื่อไม่ได้”

12 Apr 2019

เป็นคลิป 7 เรื่องที่ฝรั่งทำขึ้นมา เป็นความรู้ในเรื่องบริโภค แต่เป็นความรู้ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งมีคนไทย เอาคลิปเหล่านี้มาแชร์ต่อ แถมยังแปล เป็นภาษาไทยไว้ด้วย ....เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง ชัดเจน มาฟังคำอธิบายของนักวิชาการ

ด้วยอดทนไม่ไหว รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องขอแก้ความเข้าใจผิดๆ ในเรื่องเหล่านี้

การเอาแอปเปิ้ลไปล้างด้วยน้ำร้อน แล้วพบว่า แว๊กหรือ ขี้ผึ่งละลายออกมา

รศ.เจษฎา บอกว่า แอปเปิ้ลและผลไม้หลายชนิด มีแว๊กไขมันเคลือบตามธรรมชาติ เพื่อให้ผลอยู่ได้นาน และกินได้ ส่วนที่มาแว๊กเพิ่มเพื่อเติมอายุการเก็บรักษา เขาใช้ขี้ผึงเกรดดี มาตรฐานอาหารสากลยุโร-อเมริกา กินได้เช่นกัน แว้นแต่แหล่งที่แว๊กแอปเปิ้ลบางประเทศ เช่น จีน มาตรฐานไม่ค่อยดีเท่าไร

ใช้น้ำอัดลมรสส้มเท ใส่ทิชชู่ลงไปคน สีล้มติด เหลือแต่น้ำใสๆ

อาจารย์บอกว่าเคยอธิบายเรื่องนี้หลายครั้งแล้วว่าเป็นแค่สีผสมอาหารซึ่งใช้ทั้งสีธรรมชาติและสีสังเคราะห์ถ้าเป็นสีสังเคราะห์อาหารที่ผ่านการผลิตถูกต้องมาตรฐานปลอดภัยกินได้อย่ากังวล

ทดสอบใช้ไอโอดีนหยดใน “มายองเนส” แล้วคนกลายเป็นสีน้ำเงินม่วงยี่ห้อหนึ่งอีกยี่ห้อเป็นสีน้ำตาลแสดงว่ายี่ห้อออกสีน้ำเงินม่วงตรวจเจอแป้งและอันตรายที่ออกสีน้ำตาลไอโอดีนไม่มีแป้งจึงปลอดภัย

เอาขนมเค้ก คัพเค้ก มาละลายน้ำ ขยี้ๆ ผ่านน้ำเจอเส้นใยเส้นๆ เหมือนเป็นเส้นใยสังเคราะห์

อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์บอกว่า ไม่ใช่เส้นใยสังเคราะห์ สำลี ใยฝ้าย ขนมเค้กนี้ ทำมาจากแป้งสาลี มีโปรตีนกลูเตน (gluten) อยู่สูง กลูเตนมีลักษณะค่อนข้างจะเป็นเส้นใย ช่วยทำให้ขนมปังหรือเค้กขึ้นฟู นุ่มเหนียว ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ยกเว้นกลุ่มคนที่แพ้กลูเตน

ใช้เนยสดใส่น้ำร้อน แล้วคนๆ จะแยกตัวกระจายแขวนลอยอยู่ทั่วเต็มแก้ว ถือเป็นของคุณภาพดี ทำจากนมหรือครีม ถ้าทำจากมาการีน เอามาใส่น้ำร้อนคนๆ มันจะจับกันเป็นก้อนใหญ่ๆ ลอยน้ำ ถือว่าทำจากนำ้มันปาล์ม จึงไม่ละลาย

การใช้วิธีทดลองนี้ รศ.เจษฎา อธิบายว่า มันแสดงถึงคุณสมบัติที่ต่างกันของเนย กับมาการีน เมื่อถูกน้ำร้อนแค่นั้นเอง ซึ่งก็จริงที่มันทำจากวัตถุดิบต่างกัน (เนยจากนม มาการีนจากน้ำมันปาล์ม) คุณสมบัติจึงต่างกันไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่จะอันตรายต่อร่างกาย เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะย่อยหมด เป็นโมเลกุลเล็กๆ ของไขมัน ให้ร่างกายดูดซึมเอาไปใช้เหมือนกันทั้งสองอย่าง

ปัญหาสำคัญที่ห่วงมากกว่าคือ "ไขมันทรานส์" หนึ่งในผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช เติมไฮโดรเจนบางส่วนให้มันแข็งตัวมากขึ้น คล้ายเนย แล้วใช้ทดแทนเนยสดได้ด้วยราคาที่ถูกลง เป็นไขมันไม่ดีต่อสุขภาพ

ทดสอบน้ำผึ้งแท้ หรือปลอมผสมน้ำตาล ใช้วิธีเทน้ำแล้วแกว่งวนๆ ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอม รูปคลื่นจะไม่สม่ำเสมอ ถ้าเป็นน้ำผึ้งจริง จะเป็นรูปรังผึ้ง เพราะมี "ความทรงจำทางพันธุกรรม" ของผึ้งอยู่

รศ.เจษฎา ระบุว่า ปัญหาของการทดสอบคลิปนี้ อยู่ตรงคำอธิบายว่า น้ำผึ้งมันมีความทรงจำทางพันธุกรรม จดจำรูปร่างรวงผึ้งได้ เป็นเรื่องมั่วมาก น้ำผึ้งไม่ได้มียีนของผึ้งหรือมีความจำอะไร ให้จัดเรียงตัวเป็นรูปทรงรวงผึ้ง สำหรับวิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้น้ำผึ้งปลอม เป็นเรื่องยากม อย่างไรก็ตามมีวิธีทดสอบแบบบ้านๆ สับสิบๆวิธี กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผึ้งบอกว่า แต่ละวิธี (คือคนจะทำปลอมห้เหมือนของแท้มากๆ ก็ทำได้ ถ้าเอาทั้งน้ำผึ้งปลอมมาผสมกับน้ำผึ้งแท้ด้วย ยิ่งแยกยากใหญ่)

สุดท้าย ทดลองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเปิดให้ดูว่าถ้วยใหญ่เหมือนมีบะหมี่อยู่เต็มถ้วยเลย เมื่อฉีกออก เหลือตัวเส้นบะหมี่นิดเดียว

รศ.เจษฎกา มองเป็นเรื่องขำว่า ฝรั่งไม่เคยกินบะหมี่ถ้วยหรืออย่างไร เพราะเมื่อเติมน้ำร้อน เส้นบะหมี่ทอด จะคืนรูป พองกลับเป็นเส้นเหนียวนุ่ม ซึ่งต้องเว้นที่ว่างสำหรับน้ำร้อนลงไปลวกจนเส้นพองเต็มถ้วย