ข้อเท็จจริง กรณีข่าวการฉีดสเปรย์คลอโรฟอร์มหวังปลดทรัพย์นั้น เป็นเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมานานพอควร เรื่องนี้มีการแอบอ้างชื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นคนเผยแพร่
ที่มาของเรื่อง ในการแชร์ข้อความเตือนจากสำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เรื่องมิจฉาชีพที่มาหลอกขายสเปรย์ปรับอากาศ แล้วฉีดพ่นสเปรย์คลอโรฟอร์มใส่เหยื่อ เพื่อปลดทรัพย์หรือทำร้ายร่างกายนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
สตช.ชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เผยแพร่โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเพียงการแอบอ้างชื่อหน่วยงาน ทางตำรวจไม่มี”สำนักงานสารสนเทศ” แต่มี “กองสารนิเทศ” ซึ่งเป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ และ “สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” รับผิดชอบงานไอที แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวออกไป จึงขอให้ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อและอย่าแชร์ต่อ ซึ่งมิจฉาชีพยุคนี้แฝงตัวในหลายรูปแบบประชาชนก็ควรป้องกันและระวังตัวอยู่เสมอ
ด้านรศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า แชร์ต่อเป็นคำเตือนว่ ขึ้นรถแท้กซี่ ถูกฉีดสเปรย์คอลโรฟอร์มใส่เครื่องปรับอากาศ เพื่อปลดทรัพย์หรือทำร้าย ความจริงสารนี้ถูกใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรม เมื่อถูกความร้อน จะสลายตัวกลายเป็นก๊าซคลอรีน ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้ แต่ในทางการแพทย์ ส่วนใหญ่ใช้เป็นยาสลบ การใช้คลอโรฟอร์มเป็นยาสลบ เป็นเรื่องจริง แต่ต้องใช้ความความเข้มข้นที่สูง และในภาพอากาศที่ปิด ถึงจะทำให้คนหมดสติได้ ถ้าเป็นสภาพอากาศเปิดเหมือนในแท็กซี่ แล้วยังมีสติดีอยู่ โอกาสที่ทำให้หมดสตินั้นยาก จึงไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ