CSI LA เพจระอุ!! คิว คสช. “ร้องทุกข์”

พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. รับมอบอำนาจ คสช. เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง พัชรี วงษ์บุญ  รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เพื่อแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ดำเนินคดีกับผู้ดูแลเพจชื่อดัง CSI LA ที่โพสต์ภาพ 4 ภาพ และข้อความว่า .....

”จับผิดเลือกตั้ง 62 เคสที่ 30 : มีสายข่าวรายงานเข้ามา พิษณุโลก และเชียงคำพะเยา และอีกหลายๆเขต  ทหารเกณฑ์โดนบังคับให้เลือกตั้งไปแล้วนะครับ คะแนนเต็มด้วย สืบเอาเองนะคับได้ข่าวจากวงใน”  โดยในภาพทั้งสี่ มีข้อความและเนื้อหาระบุว่า

ภาพแรกเป็นรูปคล้ายทหารเข้าแถวยืนเรียงกัน

ภาพที่สอง มีข้อความที่แคปฯ มาจากแชตสนทนาว่า ”โดนเหมือนกัน เป็นทหารค่ายเชียงคำ พะเยา บังคับให้เลือกเบอร์ 16 ของพรรคประชารัฐ บังคับมาก มีการนับยอดด้วย ไม่รู้จะทำยังไง”

ภาพที่สามเป็นข้อความระบุว่า”มีรุ่นน้องเป็นนักกีฬาสังกัดกองทัพบก ก็บอกว่าบังคับให้ทหารทั่วประเทศลงทะเบียนล่วงหน้า แม้แต่นักกีฬาบางคนเป็นแค่อาสา ยังไม่ติดยศก็ต้องไป เลยถามร้องว่าเค้าบังคับไหม๊ ว่าต้องเลือกใคร มันก็ยิ้มๆ ไม่ตอบ”

ภาพที่สี่”มีป้ายหมึกลบชื่อและบางข้อความออกเหลือแค่”ไปเลือกตั้ง  ....บังคับต้องเอาเบอร์ 5 บ่าอั้นจะงดพักบ้าน เมษาก็บ่าได้กับ..”

คณะทำงานด้านกฎหมายของ คสช.พิจารณาแล้วเข้าฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม. 14( 2 )  นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุผลที่มาแจ้งความ ปอท.ว่า ทางกองทัพบกไม่เคยมีนโยบายบังคับให้ทหารต้องไปลงคะแนนเลือกผู้สมัคร สส.ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิและเสรีภาพของส่วนบุคคล แต่ภาพดังกล่าวมีทหารมายืนเรียงแถวเพื่อรอลงคะแนนนั้นเป็นการปฎิบัติที่นำกำลังพลมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทางกองทัพบก ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทหารทุกนายและต้องเป็นการปฎิบัติมีวินัย มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

พ.อ.บุรินทร์ กล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเพจ CSI LA นี้เคยโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จมาแล้วหลายครั้งที่เป็นความเท็จ ครั้งล่าสุดก็โพสต์เรื่องที่มีแหม่มถูกข่มขืนที่เกาะเต่า ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก ทาง คสช. จึงต้องพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ฝ่ายกฎหมาย คสช.ยัง ฝากเตือนประชาชนที่เข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็น ขอให้ใช้วิจารณญาณด้วย รวมทั้งการแชร์ต่อไป ซึ่ง การแชร์ต่อข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ม.14(5) มีอัตราโทษเท่าคนโพสต์นำเข้าสู่ระบบ คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน ร.ต.อ.ศตวรรษ แวงแสน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ที่สอบปากคำแทน ร.ต.อ.หญิง พัชรี กล่าวว่า รับแจ้งความแล้วจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้ เพจยังโพสต์ข้อความล่าสุด อีกว่า....