รวมกระสุนตกใส่ “กกต.มือใหม่” จัดเลือกตั้ง!!

1 เมษายน 2562

สื่อหลายแขนงเสนอว่ากกต. จะพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ (ใบส้ม ใบเหลือง ใบแดง) ใน 117 เขตเลือกตั้ง 

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง  เหตุที่อาจเป็นการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 264 เรื่อง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสืบสวนไต่สวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ โดยยังไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณากกต. ซึ่งเป็นอำนาจพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นอำนาจของศาลฎีกา ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 138 (ใบแดง ใบดำ)

31 มีนาคม 2562

มีข่าวทางสื่อออนไลน์พาดหัวว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัด! ไม่ขอปองดอง ประเทศไทยที่มีผู้นำโกง ดันถอด กกต.ชุดเดิมออก” นั้น 

กกต.แจ้งต่อสาธารณชนว่าได้ตรวจสอบเบื้องต้นจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้รับแจ้งว่าไม่น่าจะเป็นข่าวจริง

31 มีนาคม 2562

ข่าวทางสื่อออนไลน์ว่า พบรถขนบัตรเลือกตั้งเพื่อนำไปทำลายบริเวณแยกบางปลา จ.สมุทรสาคร

กกต.ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าได้ประสานงานกับกกต.ประจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้ทำการขนส่งบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนและทำการตรวจสอบจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว พร้อมวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ ในสถานที่ที่กำหนด ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบ กำหนด ข้อความที่ปรากฎในข่าวว่านำบัตรเลือกตั้งไปทำลายนั้น เป็นความเท็จ พร้อมระบุว่า เป็นการบรรยายภาพคลาดเคลื่อน ขออย่าแชร์ภาพต่อ อาจถูกเอาผิดเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และประมวลกฎหมายอาญา

30 มีนาคม 2562

มีข่าวทางสื่อออนไลน์ว่าบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไม่ได้ถูกนำมานับรวมเป็นคะแนนส่อไปในทางทุจริต

กกต.อธิบายว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า ภาพนี้เป็นถุงเมลของกระทรวงต่างประเทศที่บรรจุบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรที่คัดแยกไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมจะนำส่งออกไปยังสถานทูตสถานกงสุลในประเทศต่างๆ

29 มีนาคม 2562

กรณีการรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. (อย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีระบบการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ (Rapid Report ) วันที่ 24 มีนาคม มีความคลาดเคลื่อน 

ปัญหานี้ กกต.แจ้งว่า ได้ประสานสำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว โดยสำนักพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ช่วงแรกการรายงานผลนับคะแนนเป็นช่วงเวลาที่มีข้อมูลเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก การแสดงผลข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน ทางผู้พัฒนาระบบได้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขความคลาดเคลื่อนดังกล่าวให้ถูกต้องในทันที ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลในฐานข้อมูลกลาง และการประมวลผลข้อมูลอื่นๆ ยืนยันว่า ข้อมูลที่เชื่อมต่อให้กับตัวแทนของสื่อมวลชนเป็นข้อมูลที่มาจากฐานข้อมูลกลางที่ถูกต้อง ครบถ้วน ตามการรายงานของ กปน.

ส่วนระบบการรายงานผลฯ ล่ม เนื่องจากถูกแฮกนั้น ระบบต่างๆ ที่ได้รับความสนใจอาจถูกโจมตีจากผู้ไม่หวังดีได้ตลอดเวลา ซึ่งระบบรายงานผลเลือกตั้ง ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน แต่ไม่สามารถแฮกเข้าระบบได้ เนื่องจากผู้พัฒนาระบบได้มีการเตรียมการเพื่อรองรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไว้อยู่แล้ว   สำหรับ กรณีสื่อนำเสนอข้อมูลแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวของข้อมูลจนทำให้เข้าใจว่าระบบรายงานฯ ล่มนั้น เนื่องจากในบางช่วงเวลามีการเรียกใช้ข้อมูลในอัตราความถี่สูง ส่งผลกระทบ ให้ระบบทำงานหนัก จึงต้องแก้ไขปัญหาโดยการปล่อยข้อมูลเป็นระยะๆ ซึ่งได้มีการตกลงเงื่อนไขกับผู้แทนสื่อมวลชนแล้ว

การรายงานผล  ช่วงเวลาที่คะแนนเข้ามา 93% แล้ว ข้อมูลมีการเคลื่อนไหวช้ามาก เนื่องจากมีการส่งข้อมูลเข้ามาไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปอร์เซ็นต์ข้อมูลแต่ระบบยังคงทำงานได้เป็นปกติ และการรายงานผลการนับคะแนนของ กปน. ยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการแสดงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ต้องแสดงผลไม่เกิน 95% ของจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดตามที่กฎหมายกำหนด

28 มีนาคม 2562

ข่าว กกต. จะพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ (ใบแดง)

เรื่องนี้ กกต.แจ้งว่า เป็นข่าวเท็จ ในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้มีผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้งและมีกรณีที่ กกต. พบเหตุที่อาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง จำนวน 186 เรื่อง ยังอยู่ระหว่างสืบสวนไต่สวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้วอำนาจในการพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นอำนาจของศาลฎีกาตามพ.ร.บ.ระกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 138

27  มีนาคม 2562

ตอบโต้ประเด็นที่มูลนิธิองค์กรกลาง มีใบแถลง 10/2562  กกต. 62 : ทางตันปฏิรูปประเทศไทย

กกต. แจ้งว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหลายประการ การจัดเลือกตั้ง ส.ส. ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก กกต.ทำตามกระบวนการกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน

กรณีที่มีข้อมูลว่ามีบัตรไม่สามารถส่งให้ถึงเขตเลือกตั้งเพื่อทำการนับคะแนนและกลายเป็นบัตรเสีย ความแม่นยำของกรรมการประจำหน่วยไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ตามที่มูลนิธิองค์กรกลางให้ข้อมูลนั้น  ตรวจสอบพบว่าการปฏิบัติที่เกิดจากข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในบางหน่วยดำเนินการอยู่บ้าง จากจำนวนหน่วยเลือกตั้งที่มีประมาณ 92,320 หน่วย มีหน่วยที่พบปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่มีเพียงเล็กน้อย ทุกกรณี กกต. แก้ไขให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรมมีการกล่าวตักเตือนผู้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว

กรณีบัตรเลือกตั้งต่างประเทศที่เข้าใจว่าเป็นบัตรเสียนั้นที่ถูกต้องคือ กกต.มีมติมิให้นับบัตรดังกล่าวเป็นคะแนน ทั้งยังประกาศผลคะแนนและผลการเลือกตั้งของทุกเขตเลือกตั้งได้ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด  กรณีกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง กกต.ดำเนินการ โครงการ กิจกรรม ร่วมกับเครือข่ายต่างๆ กว่า 300,000 คน

27 มีนาคม 2562

กรณีขอให้เร่งรัดการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างเป็นทางการ

ตามที่มีข่าวปรากฎทางสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ กกต. เร่งรัดการประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 อย่างเป็นทางการ นั้น

กกต.แจงว่ามีแผนที่จะประกาศผลการนับคะแนนวันที่ 29 มีนาคม 2562 แต่สาเหตุที่ไม่อาจประกาศผลได้ในขณะนี้นั้น เหตุกกต.ประจำจังหวัด   กำลังตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร 75 จังหวัด คงเหลือการตรวจสอบความถูกต้อง อีก 2 จังหวัดโดยเร่งดำเนินการได้ทัน

26 มีนาคม 2562

กรณีซองใส่บัตรเลือกตั้งลงคะแนนเลือกของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ ถึงล่าช้ากว่ากำหนด

ที่ประชุมกกต.พิจารณาว่า มาไม่ทันการคัดแยกและไม่ทันการจัดส่งไปยังสถานที่นับคะแนนบัตรเลือกตั้ง ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวไม่สามารถนำมานับเป็นคะแนนได้ เพราะการนับคะแนน ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสถานที่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในแต่ละเขตเลือกตั้ง คณะกรรมการนับคะแนนได้ดำเนินการนับคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว มีการประกาศผลการแล้วด้วย ขณะเดียวกันก็ให้กกต.ฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบ

26 มีนาคม 2562

การทำหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยไม่ถูกต้อง วินิจฉัยการทำเครื่องหมายกากบาททับหมายเลขผู้สมัครซึ่งเป็นบัตรเสียว่าเป็นบัตรดี

กกต.แจ้งว่า กรรมการหน่วยต้องดำเนินการตามกฎหมาย วินิจฉัยว่าการทำเครื่องหมายนอกช่องทำเครื่องหมายทุกกรณีเป็นบัตรเสีย อีกทั้งปรากฎว่าในขณะที่ทำการวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งฉบับดังกล่าว วินิจฉัยว่าเป็นบัตรดี และนับเป็นคะแนนให้กับผู้สมัคร แต่ขณะเดียวกันได้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในที่นับคะแนนทักท้วงการนับคะแนนของบัตรเลือกตั้งฉบับดังกล่าวว่าเป็นบัตรเสีย คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจึงได้ประชุมหารือและได้วินิจฉัยให้บัตรเลือกตั้งฉบับดังกล่าวเป็นบัตรเสีย เป็นการดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

25 มีนาคม 2562

กกต.จัดทำบัตรเลือกตั้งตัวอย่างสีชมพู โดยมีหมายเลขผู้สมัคร ภาพเครื่องหมายพรรค และชื่อพรรคการเมือง  มีเพียงพรรคพลังประชารัฐ พรรคเดียว

เรื่องนี้ กกต.แจ้งว่าได้ตรวจสอบแล้วพบว่า บัตรเลือกตั้งตัวอย่างตามภาพที่ปรากฎข้างต้นนั้น มิได้เป็นบัตรเลือกตั้งตัวอย่างที่กกต.จัดพิมพ์ขึ้น สังเกตสีของบัตรเลือกตั้งตัวอย่างไม่ถูกต้อง หมายเลขผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งตัวอย่างจะไม่ใช่หมายเลข 1 – 50 ตามภาพที่ปรากฎ ภาพเครื่องหมายพรรคและชื่อพรรคการเมืองทุกพรรคจะไม่ปรากฎอยู่ในบัตรเลือกตั้งตัวอย่างแต่อย่างใด ทั้งตรวจสอบพบเป็นการตัดต่อ ดัดแปลงภาพบัตรเลือกตั้งตัวอย่าง หรือมีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อและมีผู้ที่เกี่ยวข้องถือเป็นการทผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

25 มีนาคม 2562

ข้อสงสัยปมรายงานผลนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการมีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ในการลงคะแนนมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

กกต.ชี้แจงว่าข้อมูลที่เป็นข่าว อยู่ในขั้นตอนการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ จากบางหน่วยเลือกตั้งไปยังกกต.ประจำเขตเลือกตั้ง และประจำจังหวัด เป็นข้อมูลที่ยังไม่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนทุกหน่วยเลือกตั้ง ทั้งระบบการรายงานผลในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดความขัดข้องทางเทคนิคทำให้ข้อมูลที่รายงานออกไปเกิดความคลาดเคลื่อน ภายหลังตรวจพบแล้ว ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องในทันที  ทั้งนี้ การรายงานผลการนับคะแนนที่ดำเนินการครบถ้วนทุกหน่วยเลือกตั้งในขั้นสุดท้ายเป็นข้อมูลจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่ประสงค์จะเลือกผู้สมัครผู้ใด ที่ถูกต้องตรงกันแล้ว

26 มีนาคม 2562

ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีเอกสารป้ายปิดช่องใส่บัตรเลือกตั้ง (แบบ ส.ส. 5/1) และสายรัดหีบบัตรเลือกตั้งปรากฎอยู่ในถังขยะปั๊มน้ำมันทองมี จ.ชุมพร

กกต.พบว่า วัสดุอุปกรณ์ บัตรเลือกตั้ง หีบบัตรเลือกตั้ง และวัสดุอุปกรณ์จากกกต.ประจำเขต นำไปเก็บรักษาไว้ก่อนวันเลือกตั้ง ผลตรวจสอบ หลังจากกกต.ประจำหน่วยเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เวลา 20.00 น. และเดินทางกลับแล้ว เมื่อไปถึงปั๊มน้ำมันเวลาประมาณ 20.20 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคนหนึ่งได้เปิดกระเป๋าเป้พบวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าวเหลือตกค้างอยู่ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคนดังกล่าวเห็นว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่เหลือใช้จากการดำเนินงานแล้ว จึงได้นำไปทิ้งในถังขยะ การดำเนินการดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่กำหนดในระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นขั้นตอนทางธุรการก่อนการลงคะแนน จึงไม่ได้มีผลกระทบต่อการลงคะแนนที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

26 มีนาคม 2562

กรณีข่าวทหารใช้สิทธิเลือกตั้งมีภาพทหารบางนายชะโงกมองเข้าไปในคูหาเลือกตั้งของเพื่อนที่ลงคะแนนอยู่นั้น

กกต.ชี้แจง เป็นกรณีที่ทหารประจำการของกองพลทหารม้าที่ 2 สนามเป้า โดยมีการเข้าแถวเรียงลำดับ ผู้ที่ชะโงกเข้าไปดูการลงคะแนนเป็นผู้ที่จะลงคะแนนในลำดับต่อไป เพียงครั้งเดียว และหลังจากลงคะแนนแล้วก็ได้ออกจากหน่วยเลือกตั้งไป จึงมีการชะโงกมองทหารผู้ที่กำลังลงคะแนนเพียงครั้งเดียว กกต.ยึดหลักการเลือกตั้งที่จะต้องเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

26 มีนาคม 2562

กรณีข่าวสลับรถขนบัตรเลือกตั้ง

กกต.แจ้งว่า ไม่เป็นความจริง โดยพบว่าเว็บไซต์นี้มีลักษณะไม่น่าเชื่อถือและนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จ กกต. ทั้ง 2 คน และผู้เกี่ยวข้องตามข่าวมิได้ดำเนินการใดๆ ตามที่ปรากฎเป็นข่าว จึงมิได้มีการปลด กกต. ทั้ง 2 ออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งดำเนินแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)

26 มีนาคม 2562

กรณี กปน.เปิดหีบบัตรนับคะแนนนอกหน่วย

เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้ง จ.เพชรบูรณ์  พบว่ารูปภาพเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของกก.ประจำหน่วยที่ 2 หลังนับคะแนนเสร็จ 19.45 น. ได้นำหีบบัตร  และวัสดุอุปกรณ์นำส่งให้กับ กกต.ประจำเขตเลือกที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นจุดรับหีบบัตรเลือกตั้ง ในระหว่างรอนั้นได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของแบบรายงานประจำหน่วยเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีจนท.ตำรวจอยู่ในพื้นที่ด้วย ที่เป็นมีการแกะหีบบัตรออกมานั่งนับและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมเข้มระวังคนแอบถ่ายภาพนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงจากการปฏิบัติงานตามขั้นตอนและระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.