ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ผู้ว่าฯจังหวัดขอนแก่น เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนและกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลางรับมือภาวะน้ำหนุนและน้ำท่วมฉับพลัน หลังเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มการระบายน้ำวันละ 54 ล้านลบ.ม. พร้อมสั่งกำลังผสมร่วมตำรวจ-ทหารและฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชม.
เมื่อเวลา 10.00 น. (14 ต.ค.) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจ.ขอนแก่น เรียกประชุมด่วน คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น เพื่อประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวันหลังระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำไหลลงความจุอ่างมากกว่าวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่สถานการณ์น้ำล่าสุดวันนี้อยู่ที่ 2,813.18 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 115.71 ของความจุอ่าง โดยมี ผวจ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ รวมไปถึงคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ผู้ว่าราชการจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติในการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เป็น 54 ล้าน ลบ.ม. โดยมีผลตั้งแต่เวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา โดยทำการระบายน้ำแบบขั้นบันได โดยเพิ่มอัตราการระบายน้ำวันละ 4 ล้านลบ.ม. เท่ากับว่าวันนี้เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำที่ 42 ล้าน ลบ.ม. ส่วนวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) ระบายน้ำ 46 ล้าน ลบ.ม. วันที่16 ต.ค. 2560 เพิ่มการระบายน้ำเป็น 50 ล้าน ลบ.ม. และวันที่ 17 ต.ค.เพิ่มการระบายเป็น 54 ล้าน ลบ.ม.
"จากข้อมูลของทางเขื่อนอุบลรัตน์รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.2560 จนถึงขณะนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนถึง 1,200 ล้าน ลบ.ม. ระบายออกได้เพียง 300 ล้าน ลบ.เมตรเท่านั้น ซึ่งเขื่อนไม่สามารถกักเก็บน้ำได้อีก จำเป็นต้องระบายเพิ่มด่วนที่สุด และจากการจำลองสถานการณ์เปรียบเทียบเมื่อปี 54 พบว่า ระดับความจุต่างกันเพียง 1 ซม. เท่านั้น เมื่อเทียบระดับความจุเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมกันนี้สภาพอากาศของกรมอุตุวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนตรวจสอบพบว่า จะมีฝนตกลงมาอีกในวันที่ 15- 18 ต.ค.2560 "
นอกจากนี้ได้มีคำสั่งไปยัง 26 อำเภอของจังหวัด ในการกำหนดจุดอพยพและพื้นที่ที่ปลอดภัย หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากภาวะน้ำหนุน อีกทั้งยังคงมีการส่งกำลังผสมร่วม ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนที่ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งป้ายเตือนจุดเสี่ยงน้ำท่วม ในหลายจุดแล้วตามเส้นทางเดินของน้ำ
อย่างไรก็ตามจากการปรับระดับน้ำในการระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ นั้นจะส่งผลให้มวลน้ำ ก้อนแรกจะไหลผ่าน อ.น้ำพอง ของ จ.ขอนแก่น จากนั้น 2 วัน มวลน้ำจะพื้นที่จ.มหาสารคาม โดยมีการคาดการณ์ในเส้นทางเดินของน้ำตลอดแม่น้ำพอง จะผ่าน จ.มหาสารคาม เข้าร้อยเอ็ด ยโสธร และลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.อุบลราชธานี โดยจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน