ตำรวจภูธรภาค 7 เตรียมเรียกตัวอดีตตำรวจ รับทราบข้อหา คดีแย่งหวย 30 ล้านบาท ก่อนสรุปสำนวน ส่งอัยการชี้ขาด สั่งฟ้องหรือไม่ ลือฝ่ายครูคู่กรณี มีหลักฐานภาพสลากเจ้าปัญหา
วันที่ 31 ม.ค.61 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีแย่งสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 ซึ่งนายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครูใน จ.กาญจนบุรี อ้างทำสลากหาย ก่อนที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมล อดีตตำรวจ นำสลากไปขึ้นเงิน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งวัตถุพยาน 1 ชิ้น ไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ที่จะทราบผลภายในวันนี้
[caption id="attachment_190442" align="aligncenter" width="808"]
นายปรีชา ใคร่ครวญ[/caption]
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในช่วงเช้า พร้อมเรียกตัวทั้ง 2 ฝ่ายเข้าพบ ถ้าพบว่าหลักฐานฝ่ายครูมีมูล จะมีการแจ้งข้อหากับ ร.ต.ท.จรูญ ตามที่แจ้งความก่อนหน้านี้ ฐานยักยอกทรัพย์ แต่ไม่ได้หมายความว่า ร.ต.ท.จรูญ เป็นผู้กระทำผิด เนื่องจากคดีนี้ 2 ฝ่ายต่างก็ยืนยันหนักแน่นว่า เป็นเจ้าของสลากตัวจริง ประกอบกับกฎหมายในไทย เป็นระบบกล่าวหา เจ้าหน้าที่ต้องสรุปสำนวนตามหลักฐาน ส่งให้อัยการพิจารณาชี้ขาดว่า สั่งฟ้องต่อศาลหรือไม่
[caption id="attachment_190445" align="aligncenter" width="806"]
ร.ต.ท.จรูญ วิมล[/caption]
ทั้งนี้ พล.ต.ต.กฤษณะ ระบุว่า กรณีข่าวลือว่า นายปรีชา มีหลักฐานคลิปวงจรปิดขณะภรรยาของร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บสลากนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนซองพลาสติกใส ซึ่งเป็นซองใส่สลากเจ้าปัญหานั้น ได้รับตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่พบว่าซองนั้นมีการจับกันหลายคน จึงไม่สามารถส่งตรวจได้และไม่มีผลต่อรูปคดี ขณะที่ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ระบุว่า คดีนี้ต้องมีฝ่ายใดให้การเท็จ และต้องถูกลงโทษจำคุกแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นผู้โกหก
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายปรีชา ยืนยันว่า ไม่สามารถรับฟังแถลงข่าวของตำรวจได้ เนื่องจากติดภารกิจสอนหนังสือนักเรียน ส่วนนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของ ร.ต.ท. จรูญ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ แต่โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า อยากให้ตำรวจสอบพยานอีก 3 ปากสำคัญ รวมถึงสอบปากคำ ร.ต.ท.จรูญ อีกครั้ง ก่อนสรุปสำนวน ซึ่งกรณีที่ฝ่ายนายปรีชา มีพยานอ้างว่า เห็น ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บสลากนั้น ตรงนี้แสดงให้เห็นว่ามีขบวนการแน่นอน โดยคดีนี้หากเข้าสู่ชั้นศาลชั้นต้น จะต่อสู้ในกระบวนการประมาณ 1 ปี
ทั้งนี้มีรายงานว่า ประเด็นสำคัญที่ฝั่งนายปรีชา ใช้ต่อสู้ในคดี ประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ
1.พยานแม่ค้าขายสลากในตลาดเรดซิตี้ 2 คน ให้การยืนยันว่า ขายสลากให้นายปรีชา
2.พยานที่เป็นแม่ค้า มีภาพหลักฐานสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ ที่ถ่ายไว้ก่อนรู้ผลสลากจริง
3.จากการตรวจสอบพบว่า ลายน้ำบนสลากตามภาพถ่าย ตรงกับสลากรางวัลที่ 1 จริง
4.พบพยานบุคคล ที่อ้างว่า เห็นฝั่งอดีตตำรวจ เก็บสลากไปได้
ส่วนฝั่ง ร.ต.ท.จรูญ ที่เป็นคนนำสลากไปขึ้นเงินรางวัล มีประเด็นต่อสู้ชัดเจนแค่ 1 ประเด็น คือ ผลตรวจสอบลายนิ้วมือบนสลาก ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่รับรองว่าพบลายนิ้วมือของอดีตตำรวจเพียงคนเดียว แต่เรื่องสถานที่ซื้อสลาก หรือซื้อสลากกับแม่ค้าคนไหน ยังให้การไม่ชัดเจน