svasdssvasds

อัยการภาค 7 รับสำนวนคดีเปรมชัย ยึดหลักทำงานถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

อัยการภาค 7 รับสำนวนคดีเปรมชัย ยึดหลักทำงานถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

ศรีวราห์ หอบสำนวนคดีเปรมชัย - พวก ลักลอบล่าสัตว์ป่า ให้อัยการจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ขณะที่อธิบดีอัยการ ภาค7 กำชับ เร่งรัดการทำสำนวน ทุก 7 วัน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำสำนวนคดี นายเปรมชัย กรรณสูต , นายยงค์ โดดเครือ , นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาฐาน ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และข้อหาอื่น รวม 10 ข้อหา ประกอบด้วย

1 . ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

3. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

5. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มา โดยการกระทำผิดกฎหมาย

6. ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

7. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

8. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

9. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร

10. ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร

อัยการภาค 7 รับสำนวนคดีเปรมชัย ยึดหลักทำงานถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

พร้อมความเห็นให้สมควรสั่งฟ้อง มามอบให้ นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 เพื่อดำเนินการพิจารณาก่อนมีคำสั่งส่งฟ้องศาลหรือไม่

โดยนายธรัมพ์  ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า สำนวนดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้สรุปสนอพนักงานอัยการ ดังนี้  คือ เสนอเห็นควรสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ในข้อหาที่ 1 ถึง 8 และเห็นควรสั่งฟ้อง ในข้อหาที่ 9 เฉพาะการพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร และในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานสอบสวน เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลาง เป็นของนายเปรมชัย กรรณสูต ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย

อัยการภาค 7 รับสำนวนคดีเปรมชัย ยึดหลักทำงานถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

ขณะที่ นายยงค์ โดดเครือ , นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและดำเนิน พร้อมกับ นายเปรมชัย พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ตั้งแต่ข้อหาที่ 1 ถึง 9 ทุกข้อกล่าวหา

ส่วนข้อหา ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร พนักงานอัยการเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

อัยการภาค 7 รับสำนวนคดีเปรมชัย ยึดหลักทำงานถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

ซึ่งคดีนี้ สำนักงานอัยการภาค 7 เห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหาเป็น ผู้มีชื่อเสียงในสังคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ (NGO) ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจาณาดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และหากคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็น เสนออธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป

ด้าน นางสมศรี ยืนยันว่าต่อจากนี้ทางอัยการจะเร่งรัดการทำสำนวนในทุกๆ 7 วัน เพื่อให้การทำสำนวนมีความเห็นในการสั่งคดีให้เร็วที่สุด แต่หากมีการต้องให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่ม ก็จะมีการประสานข้อมูลกันเพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็ว ส่วนเรื่องรายละเอียดในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมยืนยัน การทำงานของอัยการต่อจากนี้ จะดำเนินการอย่างถูกต้อง โปร่งใส รวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ในการส่งสำนวนดังกล่าว พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสี่มาพร้อมสำนวน เนื่องจากตัวผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/ 2561 โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคม 2561

related