ตำรวจภาค 1 เร่งสอบปากคำพยาน คดีเชิดรถหรู สูญ 7 ล้าน
ตามที่ผู้เสียหายเจ้าของธุรกิจให้เช่ารถยนต์เดินทางมาร้องเรียนสปริงนิวส์ ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกเช่ารถยนต์หรูจำนวน 2 คัน ก่อนจะนำรถไปจำนำกับนายทุน สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 1 ทราบเรื่อง สั่งเร่งดำเนินคดีเร็วที่สุด ติดตามรายละเอียดได้จากรายงานของ คุณรัชดาภรณ์ ม่วงทำ ผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์
ผู้เสียหายได้เปิดใจกับทีมข่าว
ทีมข่าวสปริงนิวส์ได้ลงพื้นที่เพื่อดูธุรกิจรถยนต์ภายในร้านไอรินออโต้คาร์ เปิดให้เช่ารถยนต์แบบรายวันและรายเดือน ที่เปิดควบคู่กันกับอู่รับซ่อมรถที่ผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียน พบว่า มีรถจำนวนหลายคัน โดยผู้เสียหายได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เพิ่งเปิดให้เช่ารถรถยนต์ เพื่อมาช่วยพยุงรายจ่ายในร้าน แต่ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกเช่ารถยนต์เมอเซเดสเบนซ์ อีคลาส และ บีเอ็มดับเบิลยู รุ่นเอ็กซ์วัน โดยออกอุบายจะนำไปสร้างความมั่นใจในธุรกิจให้ลูกค้าไว้วางใจ และนำไปใช้ในงานแต่งงานตัวเองด้วย ก่อนจะมีการนำรถทั้ง 2 คันไปจำนำ และจากการตรวจเช็คจีพีเอสพบว่ารถจอดอยู่ย่านบางบัวทอง และสืบทราบด้วยตนเองว่าเป็นบ้านของนายทุนชื่อเฮียเม้ง
เฮียเม้งยืนยันรถจอดอยู่บ้านตัวเองจริง
โดยผู้เสียหายยังได้นำคลิปเสียงที่ได้พูดคุยกับเฮียเม้งให้ทีมข่าวสปริงนิวส์ ซึ่งเฮียเม้งยืนยันรถจอดอยู่บ้านตัวเองจริง โดยเฮียเม้งบอกว่า น.ส.ศรัญญา น.ส.ทัศนีย์ และนายณัฐพล ได้นำรถยนต์มาให้ตนเอง เนื่องจากเป็นหนี้ และเฮียเม้งยังบอกด้วยว่า น.ส.ศรัญญา ได้ทำลักษณะนี้หลายครั้ง โดยการเดินสายเช่ารถ แล้วนำมาไว้ที่ตน แต่เจ้าของรถหลายคนได้คืน เพราะตามเจอจากจีพีเอส
ทีมข่าวได้นำกรณีนี้ไปสอบถามผู้บัญการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งท่านยืนยันจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานแล้ว เหลืออีกเพียง 1 ปาก โดยจะเร่งรัดคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากการโจรกรรมรถยนต์ซึ่งปัจจุบันคนร้ายมีการออกอุบายใช้หลอกผู้เสียหายหลายรูปแบบ พร้อมเตือนให้ผู้เสียหายอย่าหลงกล
การโจรกรรมรถยนต์ เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยคนร้ายจะออกอุบายหลายแบบ หลังเจอรถเป้าหมาย ทั้งหลอกผู้เสียหายขอซื้อรถยนต์ หรือทำเป็นแจ้งกุญแจรถยนต์เจ้านายหาย ก่อนจะให้ช่างมาไขกุญแจ แล้วเชิดรถหลบหนีไป แต่คดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สามารถตามจับได้
