svasdssvasds

ทีวีไกด์: ละคร “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศ 4-5 เม.ย. 61

ทีวีไกด์: ละคร “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศ 4-5 เม.ย. 61

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 13 ออกอากาศวันพุธที่ 4 เมษายน 2561

หลังจาก ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป-ธนวรรธน์) เดินทางไปฝรั่งเศสพร้อมคณะฑูต เกศสุรางค์ก็เป็นแม่สื่อให้ ขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น-ปรมะ) และ จันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) ได้ลงเอยกัน แม้ จันทร์วาดจะมีใจให้ขุนเรืองแต่ คุณหญิงนิ่ม (แพร-รัชนี) ก็มิยอมรับและจะให้จันทร์วาดแต่งงานกับ บุตรชายขุนนางที่มีทรัพย์สมบัติมหาศาล เมื่อ เกศสุรางค์ (เบลล่า-ราณี) รู้เข้าก็ออกอุบายให้จันทร์วาดแกล้งป่วยตรอมใจ จนคุณหญิงนิ่มทุกข์ใจมาก และให้ขุนเรืองเดินหน้านำข้าวของแต่งเรือนที่มีราคาขนมาให้คุณหญิงนิ่ม จนทำให้คุณหญิงนิ่มเริ่มใจอ่อน

สองปีผ่านไป ขุนศรีวิสารวาจาได้เดินทางกลับถึงอยุธยา ทำให้ทุกคนในเรือนและเกศสุรางค์ดีใจเป็นอย่างมาก ออกญาโหราธิบดี (หนิง-นิรุตติ์) ก็ได้เล่าให้ขุนศรีวิสารวาจาฟังว่าที่อยุธยาเกิดกบฎมักกะสันของพวกแขก คอนสแตนติน ฟอลคอน (หลุยส์-สก็อตส์) มีอำนาจล้นเหลือ สึกพระไปสร้างป้อมสร้างกำแพงมากมาย และยังปราบกบฎมักกะสันได้ราบคาบ จนได้อวยยศเป็น พระยาวิไชยเยนทร์ ในวันเดียวกันนั้นเกศสุรางค์ได้เข้ามาหยิบหนังสือที่หอสมุดและนำสมุดข่อยมนต์กฤษณะกาลีมาดู ทำให้วิญญาณของเกศสุรางค์หลุดออกจากร่างไป ขุนศรีวิสารวาจาตัดสินใจสวดมนต์กฤษณะกาลีอีกครั้ง เพื่อเรียกวิญญาณของเกศสุรางค์ให้ฟื้นคืนมา วิญญาณของเกศสุรางค์ได้กลับมาที่ภพปัจจุบัน ทำให้เธอมีโอกาสได้เห็น ยายนวล (บรรเจิดศรี ยมาภัย) กับ แม่สิปาง (เจี๊ยบ-ปวีณา) และ เรืองฤทธิ์ (ปั้นจั่น-ปรมะ) อีกครั้ง และครั้งนี้เกศสางค์ก็ได้รู้ความจริงว่าเธอได้ตายไปแล้วในภพปัจจุบันแล้ว!!

 

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 14 ออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561

วิญญาณของเกศสุรางค์ (เบลล่า-ราณี) ได้กลับมาที่เรือนของ ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป-ธนวรรธ์) และได้พบกับวิญญาณของการะเกดอีกครั้ง เกศสุรางค์ได้รู้ความจริงว่าการะเกดคือพี่น้องฝาแฝด!! เมื่อ เกศสุรางค์ฟื้นขึ้นขุนศรีวิสารวาจาจึงตัดสินใจจะทำลายมนต์กฤษณะกาลี เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เกศสุรางค์จึงได้รู้ว่าทุกคนในเรือนรู้ความจริงแล้วว่าเธอไม่ใช่การะเกดคนเดิม วันต่อมาเกศสุรางค์ชวนขุนศรีวิสารวาจาไปเยี่ยมจันทร์วาด (ปรางค์-กัญญ์ณรัณ) ทำให้ขุนศรีวิสารวาจาได้รู้ความจริงว่าจันทร์วาดออกเรือนและกำลังตั้งท้องกับขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น-ปรมะ) ที่ตอนนี้ได้อวยยศเป็น หลวงเรืองณรงค์เดชา ต่อมาขุนศรีวิสารวาจาก็ได้อวยยศเป็น พระศรีวิสารสุนทร ขณะที่พระวิสุทธสุนทร (เก่ง-ชาติชาย) ได้รั้งตำแหน่ง โกษาธิบดี และฟอลคอน (หลุยส์-สก็อตส์) ก็ได้อวยยศเป็น เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ ด้านหลวงสรศักดิ์ (ก็อต-จิรายุ) ยังคงพยายามขัดขวางไม่ให้ฟอลคอนเกณฑ์คนไปสร้างป้อม จนมีปากเสียงทะเลาะกัน ถึงขั้นหลวงสรศักดิ์ชกหน้า ทำให้ฟอลคอนแค้นใจเป็นอย่างมาก พอกลับมาบ้านก็กลับมาทะเลาะกับ ตองกีมาร์ (ซูซี่-สุษิรา) อีก ฟอลคอนเมามายจึงไปนอนกับ คลาร่า (ซูริ-ซูซานน่า) เด็กในบ้านที่ตองกีมาร์เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ทำให้ตองกีมาร์โกรธมากและตัดสินใจหนีกลับอยุธยาไป เกศสุรางค์ได้ทราบข่าวของตองกีมาร์และฟอลคอน จึงเข้าไปช่วยเจรจาจนทำให้ตองกีมาร์กลับมาหาฟอลคอนที่เรือน และได้ยินฟอนคอลหารือเรื่องแผนการณ์ที่จะนำทหารฝรั่งเศสเข้ามาในอยุธยา เกศสุรางค์จึงใช้วิชาล่องที่พระอาจารย์ชีปะขาวเคยให้ไว้เพื่อไปสืบความจากฟอลคอล แต่ฟอลคอนเกิดรู้ตัวทำให้เกศสุรางค์ต้องหนีออกมาก่อน เรื่องถึงหูพระศรีวิสารสุนทรทำให้ทั้งโกรธและเป็นห่วงอย่างมากจึงเปิดเผยความในใจที่มีต่อเกศสุรางค์ ด้วยความรักที่ทั้งสองมีต่อกันและกัน พอพระศรีวิสารสุนทรกลับถึงอยุธยาไม่กี่วันต่อมา ออกญาโหราธิบดี (หนิง นิรุตต์) ก็จัดงานแต่งงานให้พระศรีวิสารวาจาและเกสสุรางค์ทันที

related