"ศรีวราห์" เผยความเห็นแย้งอัยการ ไม่ฟ้อง "เปรมชัย" อาจส่งผลต่อการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียก ประชุมคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เพื่อพิจารณาความเห็นแย้ง กรณีที่อัยการภาค7 มีความเห็นสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก 6 ข้อหา และไม่ฟ้อง 5 ข้อหา

โดยประเด็นแรก คือ ประเด็นที่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้องในบางข้อหา ที่ไม่มีบทลงโทษทางอาญา แต่จากการตรวจสอบข้อกฎหมายตามมาตร า39 เรื่องสิทธินำคดีอาญามาฟ้อง ย่อมระงับไปมี7 กรณี เช่นเมื่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ และเมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำความผิด และยกเลิกความผิด ดังนั้นการไม่มีบทลงโทษ จึงไม่เข้าข่ายที่จะยกฟ้อง รวมถึงยังมีการยกคำพิพากษาศาลฎีกา ปี2555 ระบุว่าคดีอาญาที่มีความเกี่ยวพันไปถึงคดีแพ่ง หากไม่ฟ้องคดีทางอาญาก็จะไม่สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้ จึงทำให้รัฐเกิดการสูญเสียในการเรียกร้องข้อเสียหายทางแพ่ง

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังนำกฎกระทรวงฉบับที่ 7 ปี 2538 และคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปี 2549 มาพิจารณาเสนอความเห็นแย้ง กรณีเรื่องของการไม่เก็บค่าธรรมเนียม จำนวน 110 บาท และการห้ามนำระเบิด อาวุธ ปืน เข้าไปในพื้นที่เขตอุทยาน ซึ่งไม่มีการขออนุญาต เมื่อไม่มีหลักฐานการขออนุญาต จึงถือว่าเป็นความผิดที่ชัดเจน รวมทั้งการขออนุญาตเข้าพื้นที่ของคณะเปรมชัย ที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นผู้ทำหนังสือขอเข้าพื้นที่ ซึ่งขัดกับคำสั่งของกรมอุทยานฯ ปี2549 เรื่องการมอบหมายหน้าที่การอนุญาตผู้ที่ประสงค์จะเข้าอุทยานฯจะต้องขออนุญาตด้วยตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาเคยส่งหนังสือชี้แจงไปที่กรมอทุยานให้พิจารณาในเรื่องความผิดดังกล่าวแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ทั้งนี้หากว่าทางอัยการยังคงยืนยันความเห็นเดิม ก็เป็นสิทธิของอัยการ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่าการเห็นแย้งของตำรวจเป็นความเห็นที่ยึดตามระเบียบและกฎที่มีอยู่ ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ที่ดีที่สุดเพื่อประชาติ โดยคณะพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปความเห็นแย้ง ก่อนจะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาภายในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง