svasdssvasds

อ่วมอรทัย! 'ขสมก.' ชดใช้ 'เบสท์ริน' 1,159 ล้าน

อ่วมอรทัย! 'ขสมก.' ชดใช้ 'เบสท์ริน' 1,159 ล้าน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 10 เม.ย. 2561 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชดใช้ค่าเสียหายให้กับ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด,  บริษัทอาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล วิฮีเคิลส์ เอสดีเอ็น. บีเอชดี., บริษัทรถยนต์ เซินหลง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด และบริษัทเทคโนโลยีพลังงานใหม่ เป่ยฟังกวางโจว จำกัด

เนื่องจากบอกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์โดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี และบำรุงรักษาจำนวน 489 คัน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเงิน 1,159,969,552.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น 1,147,831,350.06 บาท นับถัดจากวันที่ 7 มิ.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันฟ้องคดีเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ ขสมก. ส่งมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 30 ก.ย. 2559 จำนวน 547,427.71 บาท คืนแก่ บริษัท เบสท์รินฯ กับพวก ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้เป็นเงินตามจำนวนหนังสือค้ำประกันดังกล่าว

อ่วมอรทัย! 'ขสมก.' ชดใช้ 'เบสท์ริน' 1,159 ล้าน

ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงในคดีปรากฏว่า บริษัท เบสท์รินฯ กับพวกทำสัญญาซื้อขายรถเมล์เอ็นจีวีให้ ขสมก. จำนวน 489 คัน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2559 และมีกำหนดส่งมอบรถทั้งหมดภายใน 90 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการนำเข้ารถเมล์เอ็นซีทั้ง 489 คัน ณ วันที่ 24 ม.ค. 2560 และได้นำรถ 390 คัน ไปติดตั้งระบบจีพีเอส ในจำนวนนี้ได้นำไปจดทะเบียนต่อกรมขนส่งทางบกเป็นชื่อของ ขสมก. แล้วจำนวน 292 คัน แม้จะมีรถยนต์บางส่วนยังอยู่ที่กรมศุลกากร

การที่ ขสมก. ไม่ตรวจรับมอบรถโดยอ้างว่า ได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งว่า ให้รอกรมศุลกากรพิจารณาถิ่นกำเนิดสินค้าก่อน รวมทั้งอ้างว่า ส่งมอบรถไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา เป็นการขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ที่คณะกรรมการตรวจสอบรับและทดสอบรถเมล์เอ็นจีวีมีมติให้มีการส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีเป็นงวด ๆ ได้ ดังนั้น การที่ ขสมก. อ้างสิทธิตามข้อ 21 ของสัญญาที่ว่า ขสมก. มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที หากบริษัท เบสท์รินฯ ส่งมอบรถไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดในสัญญา และมีสิทธิริบหลักประกัน รวมทั้งสิทธิเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฯ ได้นั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ การบอกสัญญาจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 387 ประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์

ส่วนที่ ขสมก. อ้างว่า รถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวไมได้เป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากประเทศจีน หรือ เป็นรถที่ประกอบในประเทศไทย แต่เป็นรถที่ประกอบขึ้นที่ประเทศมาเลเซียนั้น ศาลเห็นว่า จากประกาศของ ขสมก. เรื่อง “การจัดซื้อรถเมล์เอ็นซีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษา” ลงวันที่ 23 พ.ค. 2559 มีเจตนารมณ์ในการจัดซื้อที่มิได้ถือแหล่งผลิตหรือแหล่งประกอบรถเมล์เอ็นจีวีเป็นสาระสำคัญ แม้ตามข้อตกลงในสัญญา ตกลงที่จะซื้อขายรถที่ผลิตในประเทศจีนทั้งคัน แต่ข้อเท็จจริง เป็นการนำรถมาประกอบที่ประเทศมาเลเซีย ก็ไม่ใช่ข้อแตกต่าง ที่จะทำให้การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการบริการสาธารณะ ดังนั้น การที่ ขสมก. อ้างว่า บริษัท เบสท์ริน กับพวกเป็นฝ่ายผิดสัญญา และสามารถบอกเลิกสัญญาตามกฎหมายได้ จึงไม่อาจรับฟังได้  จึงพิพากษาให้ ขสมก. ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว

นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางยังได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในคดีที่บริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2560  หรือ หลังจากที่ ขสมก. ยกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์จำนวนดังกล่าวจาก บริษัท เบสท์ริน แล้ว ได้ยื่นฟ้อง ขสมก. และคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. (บอร์ด ขสมก.) กรณีบอร์ด ขสมก. มีมติในการประชุมครั้งที่ 16/2560 ให้ ขสมก. ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) เนื่องจากศาลเห็นว่า มติบอร์ด ขสมก. ในการประชุมครั้งที่ 15/2560 วันที่ 18 ธ.ค. 2560 และการประชุมครั้งที่ 16/2560 วันที่ 20 ธ.ค. 2560 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะปรากฏข้อเท็จจริงจากพยานว่า ในการประชุมทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว ไม่มีการลงมติอนุมัติให้ ขสมก. เข้าทำสัญญา และไม่มีการรับรองรายงานการประชุมดังกล่าว จึงสั่งมิให้ ขสมก. และบอร์ด ขสมก. นำมติดังกล่าวไปดำเนินการใดที่มีผลผูกพันกับ ขสมก. และบอร์ด ขสมก. เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือ คำสั่งเป็นอย่างอื่น

อ่วมอรทัย! 'ขสมก.' ชดใช้ 'เบสท์ริน' 1,159 ล้าน

คณิสสร์ ศรีวชิระประภา

ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเบสท์รินฯ

ด้าน นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเบสท์รินฯ กล่าวว่า คำพิพากษาวันนี้ ถือว่า เป็นการให้ความเป็นธรรมกับบริษัทฯ อย่างมาก เพราะกว่า 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทตกเป็นจำเลยสังคมของประเทศ ถือว่า ศาลเมตตาคืนความเป็นธรรมให้ ซึ่งความจริงแล้ว เราไม่ได้อยากจะได้ค่าเสียหาย แต่ต้องการที่จะส่งมอบรถที่สั่งมาให้กับทาง ขสมก. เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้ โดยทางบริษัทก็จะไม่อุทธรณ์เรื่องค่าเสียหายเพิ่ม แต่พยายามเจรจากับรัฐบาล และ ขสมก. เพื่อหาทาง โดยอาจจะมีการทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ ขสมก. มีการเช่า หรือ ซื้อ ของบริษัทฯ ไป เพื่อประชาชนจะได้มีรถใช้

……………….

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

● ขสมก.ยกมาตรฐานเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศNGVรุ่นใหม่

● ขสมก.แจงรฟม.กรณีไม่ย้ายรถNGVโยนลูกเบสท์รินฯอ้างคดีค้างศาลปกครอง

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ : 'ขสมก.' อ่วมอรทัย! ชดใช้ 'เบสท์ริน' 1,159 ล้าน

related