สหรัฐฯ ถอนตัวข้อตกลงนิวเคลียร์...อาจนำไปสู่สงคราม
สหรัฐฯต้องตัดสินใจภายใน 12 พฤษภาคมนี้ว่าจะนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้กับอิหร่านอีกหรือไม่ ขณะที่อิสราเอลออกมากดดันให้สหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการถอนตัวของสหรัฐฯอาจนำไปสู่สงคราม
โฆษกทำเนียบขาว ซารา แซนเดอร์ส กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่าข้อตกลงนิวเคลียนร์อิหร่านมีขึ้นบนฐานข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะอิหร่านขณะนั้นมีความก้าวหน้าในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มากกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลงในปี 2015 และย้ำว่าอิหร่านนั้นไม่ซื่อสัตย์
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เคยประกาศว่าเขาให้เวลาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ถึงวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ในการแก้ไขข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ให้ครอบคลุมโครงการขีปนาวุธ ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯจะนำมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งหากสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน จะเป็นการละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯลงนามกับ อิหร่าน จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และสหภาพยุโรปเมื่อปี 2015
[caption id="attachment_249741" align="alignnone" width="840"]
วันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี อิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ออกมากดดันสหรัฐฯผ่านการสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นโดยการแถลงเป็นภาษาอังกฤษ ถึงข้อมูลโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่อิหร่านเคยพัฒนาก่อนลงนามในข้อตกลง เนทันยาฮูระบุว่าแม้ว่าโครงการได้ยุติลง อิหร่านยังคงเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์เอาไว้ ขณะที่อิหร่านได้ออกมาตอบโต้ว่าเนทันยาฮูเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” และสิ่งที่เนทันยาฮูกล่าวออกโทรทัศน์เป็นโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่าข้อมูลที่อิสราเอลนำเสนอนั้นไม่มีอะไรใหม่ เป็นที่สิ่งที่ผู้เข้าร่วมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านรู้อยู่แล้ว แต่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯโดยตรง สหรัฐฯเคยระบุว่าการที่อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์จะนำไปสู่สงคราม ดังนั้นหากสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐฯก็ควรเป็นกังวลว่าจะเกิดสงคราม
