กิน อยู่ เป็น : เรื่องกล้วยๆ เค้กกล้วยหอม

ส่วนประกอบ

เนยจืด อุณหภูมิห้อง 6 ออนซ์

น้ำตาลทรายแดง 1 ½ ถ้วย

ไข่ไก่ 3 ฟอง

กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา

กล้วยหอม 4 ลูก (แบบสุกสุดๆ)

บัตเตอร์มิลค์ ¾ ถ้วย

แป้งขนมปัง 3 ถ้วย

ผงฟู ¾ ช้อนชา

เบกกิ้งโซดา1 ½ ช้อนชา

เกลือ ¾ ช้อนชา

วิธีทำ

1. เปิดเตาอบไฟล่าง 175 องศาเซลเซียส เตรียมถาดคัพเค้กขนาด 6 ช่อง (standart) พร้อมกับระดาษคัพเค้กสีสันตามชอบ
2. นำเนยที่อุณหภูมิห้อง ใส่ในชามผสมพร้อมกับน้ำตาลทรายแดง ใช้หัวใบพาย ปรับความเร็วกลางถึงสูง ตีประมาณ 5 นาที ให้เนยมีสีอ่อนและขึ้นฟู
3. ระหว่างนี้ เตรียมบัตเตอร์มิลค์ และยีกล้วย 4 ลูกลงในชามใบใหญ่ ใช้ส้อมบดกล้วย ขนาดชิ้นกล้วยที่ยีแล้วตามความชอบ แต่อย่าให้ใหญ่เกินไป  เทบัตเตอร์มิลค์ลงไปผสมให้เข้ากันดี
4. เตรียมส่วนผสมของแป้ง เบกกิ้งโซดา ผงฟูและ เกลือ ผสมรวมกันคนให้เข้ากัน
5. พอเนยมีสีอ่อนดีแล้ว ตอกไข่ไก่พร้อมกับใส่กลิ่นวนิลาลงไปในถ้วย ค่อยๆใส่ไข่ลงไปทีละฟองในเครื่องตี เมื่อเข้ากันดีแล้วค่อยเทอีกฟองตามลงไปจนหมด
6. ปรับความเร็วเครื่องตีให้เบาที่สุด แบ่งส่วนผสมของแป้งและกล้วยเป็น 2 ส่วน (กะเอาได้) ค่อยๆใส่แป้งส่วนที่1 ในเครื่องตี ตามด้วยกล้วย เข้ากันดีแล้ว ส่วนแป้งส่วนที่ 2 และกล้วยส่วนที่ 2 เมื่อตีเข้ากันดีแล้วให้ปิดเครื่องทันที
7. ตักเนื้อเค้กใส่ในถาดที่เตรียมไว้ ประมาณ ¾ ถ้วย เอาเข้าอบประมาณ 15-16 นาที หากยังไม่สุกอบต่อได้อีก 1-2 นาที

[caption id="attachment_254523" align="aligncenter" width="225"] อุปกรณ์ทำขนมที่ต้องมี[/caption]

เริ่มจากกล้วยหนึ่งหวี มาจากสวนของน้องที่ทำงานในสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ สารภาพเลยไม่เคยกินกล้วยหอมที่อร่อยแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมาก็มักจะอาศัยกล้วยหอมที่ร้านสะดวกซื้อใต้อาคาร กล้วยที่ได้มาอร่อยมากจนไม่อยากกลับไปกินกล้วยเดิมๆอีก  เนื้อแน่นและหอมสมชื่อกล้วยหอมจริงๆ  และด้วยความ”งก” ของเรา ก็กล้วยมันอร่อยไม่อยากแบ่งใครเลยกินไม่ทัน (ฮา) นึกขึ้นได้ว่ามีหนังสือคัพเค้กของ “มาธาร์ สจ๊วต” คาดหวังว่าจะมีสูตรคัพเค้กกล้วยหอมดีๆ และก็เจอจริงๆ แต่สูตรด้านบนนี้เป็นสูตรที่ปรับมาจาก ”มาธาร์” อีกที ด้วยความบังเอิญ ที่บอกว่าบังเอิญเพราะใส่แป้งขนมปังแทนแป้งเค้ก

ความแตกต่างของแป้งทั้งสองเมื่ออบแล้ว เนื้อของคัพเค้กกล้วยหอมก็ต่างกัน แป้งขนมปัง – เนื้อเค้กร่วน ฟู เบา แป้งเค้ก – เนื้อเค้กเกาะกัน หนึบหนับหน่อยๆแต่ไม่มาก อันนี้ก็แล้วแต่ชอบเลยนะคะ ส่วนตัวชอบเนื้อขนมปังมากกว่า

[caption id="attachment_254518" align="aligncenter" width="225"] เค้กกล้วยหอมที่ใช้แป้งขนมปัง[/caption]

ส่วนบัตเตอร์มิลค์บ้านเราไม่มีค่ะ หายาก อาจจะมีแต่เชื่อเถอะคะว่าราคาคงสูงเพราะต้องนำเข้า สิ่งที่จะทดแทนบัตเตอร์มิลค์ได้คือโยเกริต์ หรือใช้นมจืดในปริมาณที่เท่ากัน บีบมะนาว 1 ซีกลงไป คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สัก5-10 นาที นมจะเกาะเป็นก้อน และค่อยเอาไปผสมกับกล้วยที่ยีแล้ว ชาวตะวันตกนี่เค้าฉลาดมากนะคะ ก่อนหน้านี้ไปเปิดดูสูตรจากหลายที่ บางสูตรบอกว่าเอากล้วยยีแล้วบีบมะนาวลงไป คนให้เข้ากันก็เพราะไม่ต้องการให้กล้วยเกิดอ๊อกซิเดชั่นกลายเป็นสีคล้ำ แล้วค่อยใส่นมไปผสม สูตรของฝรั่งเค้ามีบัตเตอร์มิลค์นี่ ใช้แทนซะเลยและไม่ทำให้กล้วยสีคล้ำเช่นกัน อีกอย่าง ทำให้ขนมนุ่มฟูอีกด้วย

[caption id="attachment_254512" align="aligncenter" width="300"] เปิดเตาอบไฟล่าง 175 องศาเซลเซียส[/caption]

มีเทคนิคอีกสองอย่างที่จะแนะนำ คือการตีเนยน้ำตาลให้ขึ้นฟูก่อนใส่ส่วนผสมอื่น หากไม่ขึ้นฟูดีจะทำเนื้อเค้กแน่นค่ะ ส่วนการตักส่วนผสมที่ผสมเสร็จแล้วใส่ในถาดอบ หากมีที่ตักไอศครีมก็จะดีมากค่ะ จะไม่ทำให้เลอะเทอะ และทำให้ถาดอบสะอาด ไม่รั้งเนื้อเค้กส่วนอื่นที่จะขึ้นฟูเมื่อถูกความร้อนนะคะ

อาทิตย์ที่ผ่านมาอบคัพเค้กกล้วยหอมไปแล้วมากกว่าร้อยชิ้นค่ะ  เพราะกล้วย 4 ลูก ได้คัพเค้กประมาณ 25 -26 ชิ้น ได้กล้วยหวีแรกมายังไม่พอนะคะ เมื่อต้นสัปดาห์ได้มาอีก 1 หวี เพราะมีคนเอามาให้อีก (น้องแหม่ม-ตำแหน่ง ซีจี เธอบอกว่าอยากกิน เลยให้ไปหากล้วยดีๆเนื้อแน่นๆ พอเอามาให้ก็ต้องทำสิคะ และตรงกับวันเกิดเธอพอดี เลยได้คัพเค้กกล้วยหอมถาดใหญ่เป็นของขวัญวันเกิด  จากไม่เคยทำและซื้อกินตลอด มาถึงตอนนี้ทำไปแล้วกว่าร้อยชิ้น คัพเค้กกล้วยก็เลยกลายเป็นเรื่องกล้วยๆไปแล้วค่ะ

[caption id="attachment_254517" align="aligncenter" width="225"] วันเกิดน้องแหม่ม และเจ้าของเค้กกล้วยหอมทั้งถาด[/caption]