กทม.ลุยเก็บตู้น้ำหยอดเหรียญไม่ได้มาตรฐาน พร้อมสั่งเฝ้าระวัง ทั้ง 50 เขต

นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการ การเฝ้าระวังดูแลคุณภาพน้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญว่า ขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ 6,329 ตู้ มีใบอนุญาตเพียง 143 ตู้ และไม่มีใบอนุญาต 6,183 ตู้ โดยพบข้อบกพร่องด้านสุขลักษณะที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เช่น ตั้งตู้น้ำกลางแจ้ง บนทางเท้าหรือในที่สาธารณะ ภายในตู้น้ำและหัวจ่ายมีคราบสกปรก มีการดัดแปลงตู้น้ำโดยติดตั้งเครื่องกรองน้ำภายนอกตัวตู้ ดัดแปลงตู้น้ำให้สามารถกดน้ำเย็นได้ ไส้กรองเสื่อมสภาพ เป็นต้น ส่วนผลการตรวจคุณภาพน้ำด้วยชุดทดสอบน้ำบริโภคอย่างง่าย (อ 11) 6,302 ตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อน 4,731 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อน 610 ตัวอย่าง รอผล 936  ตัวอย่าง โดยรายที่พบการปนเปื้อน สำนักงานเขตจะแนะนำให้ผู้ประกอบการทำความสะอาดตู้น้ำ ถังพักน้ำ หัวจ่ายน้ำ เปลี่ยนไส้กรอง และทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำซ้ำอีกครั้ง ผลปรากฏว่าสะอาด ไม่พบการปนเปื้อน หากผู้ประกอบการไม่ดำเนินการแก้ไขตามคำแนะนำ จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ สำนักอนามัย โดย สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้ดำเนินการตรวจสอบสุขลักษณะและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ 4 เดือน และจัดอบรมเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการรักษาดูแลและควบคุมคุณภาพน้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญให้แก่ผู้ประกอบการ สำหรับผู้ประกอบการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ให้ติดต่อยื่นขอรับใบอนุญาต ณ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตท้องที่ หากไม่ยื่นขออนุญาตจะมีความผิดฐานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขอให้ประชาชนเลือกบริโภคน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่สะอาด ปลอดภัย โดยสังเกตสติ๊กเกอร์ของกรุงเทพมหานครที่ติดข้างตู้ว่าเป็นตู้ที่ได้รับอนุญาต

วิธีสังเกตตู้นำดื่มหยอดเหรียญ และแนวทางการเลือกใช้ตู้น้ำดื่มยอดเหรียญ ดังนี้

1.สภาพภายนอกตู้น้ำดื่ม ควรเลือกตู้ที่สะอาด บริเวณที่วางชนะบรรจุที่วางรองรับน้ำรวมทั้งหัวจ่ายน้ำจะต้องสะอาดไม่มีคราบสนิมหรือตะไคร่น้ำ

2.การควบคุมคุณภาพน้ำ ในตู้น้ำดื่มควรมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำโดยมีการทำความสะอาด้ำ ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องและไส้กรอง และติดสติ๊กเกอร์แสดงข้อความบอกวัน เวลาที่เข้ามาตรวจสอบ โดยสังเกตข้อความดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

3.การสังเกต กลิ่น สี รส โดยตรวจดูสภาพน้ำที่ได้จากตู้น้ำดื่มด้วยตนเอง ให้สังเกตสี ความขุ่น-ใส กลิ่นและรสชาติของน้ำ มีความผิดปกติหรือไม่อย่างไร โดยเปรียบเทียบ จากคุณภาพน้ำที่เคยใช้เป็นประจำหรือจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญตู้อื่นๆ บริเวณใกล้เคียง

4.ไม่สัมผัสหัวจ่ายน้ำด้วยมือหรือวัสดุอื่นใด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคน้ำดื่ม

5.ภาชนะบรรจุที่จะนำไปบรรจุน้ำดื่ม ควรเป็นภาชนะที่สะอาดและมีขนาดพอดีกับปริมาณน้ำที่ซื้อ และควรล้างภาชนะบรรจุด้วยน้ำที่กดจากตู้น้ำดื่มด้วยปริมาณเล็กน้อย แล้วเขย่าให้ทั่วภาชนะบรรจุแล้วเททิ้งทำเช่นนี้ 1-2 ครั้ง แล้วจึงเติมน้ำต่อ เพื่อความสะอาดและปลอดภัย