พ่อและญาติ แห่ศพเด็กชายแรกเกิด เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังโรงพยาบาลพิจิตร ทำคลอดล้าช้าจนเสียชีวิต ขณะที่โรงพยาบาลชี้แจง คุณแม่มีอาการโรคเบาหวานแล้วตั้งครรภ์ อัตราเสี่ยงเสียชีวิตสูง จึงทำให้เด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร นายสมศักดิ์ ทองรอด พร้อมญาติ ชาวบ้านคลองคู้ ตำบลปากทาง อำเภอเมืองพิจิตร นำศพเด็กชายขุนศึก ทองรอด ที่มีน้ำหนัก 5.4 กิโลกรัม เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับศูนย์ดำรงธรรมพิจิตร ภายในศาลากลางจังหวัดพิจิตร หลังเสียชีวิตจากการทำคลอดโรงพยาบาลพิจิตร เมื่อช่วงดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางแม่ของเด็กได้เข้าทำคลอดที่โรงพยาบาลแล้ว เด็กเกิดเสียชีวิต ระหว่างการเข้าทำคลอด โดยพ่อของเด็กระบุว่า การทำงานของคณะแพทย์ ทำงานล้าช้า ไม่ยอมผ่าลูกในท้อง จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
โดยนายสมศักดิ์ ทองรอด พ่อของเด็ก อายุ 41 ปี เล่าว่า ในเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 เวลา 8.00 น. ได้นำแม่ของเด็ก คือ นางนภา บุญโกย อายุ 27 ปี ที่มีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวานมาตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลพิจิตรในช่วงเช้า ซึ่งผลการตรวจทางคณะแพทย์แจ้งพบว่า ชีพจรของเด็กมีอาการผิดปกติ ซึ่งทางครอบครัวและทางญาติ ได้ขอให้ทางคณะแพทย์ ทำการผ่าคลอด แต่ทางคณะแพทย์ ถามเพียงว่าจะทำหมันเลยไหม ซึ่งทางแม่ของเด็กไม่ประสงค์ทำหมั่น ทางแพทย์จึงให้ยาขับเพื่อให้คลอดเอง จนเด็กในท้องเสียชีวิต และทำการผ่าเอาเด็กออก เมื่อช่วง 2 นาฬิกาที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีการต่อว่าจากแพทย์ในช่วงที่ฝากครรภ์วันแรก ที่ได้ต่อว่ารุนแรงว่า มีโรคนี้แล้วปล่อยมีลูกทำไหมอย่างไงก็เสียชีวิต จึงได้ร้องขอความเป็นธรรมและให้ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลรับผิดชอบจากการเสียชีวิตของลูก
ขณะที่ นายแพทย์วิริยะ เอี้ยวประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร และทีมแพทย์ ได้เข้าชี้แจ้งกับทางญาติ โดยระบุว่า ในช่วงที่ทางคุณแม่ตั้งครรภ์ และมาฝากท้องกับโรงพยาบาล โดยคุณแม่มีอาการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งมีอัตราเสี่ยงอันตราย โดยวันที่เกิดเหตุ ทางคุณแม่มาตรวจครรภ์ ซึ่งทางคณะแพทย์พบผิดปกติของทารกในครรภ์ ในการอัลตราซาวด์ พบเด็กในท้องไม่มีชีพจรและผิวหนังเริ่มบวม ที่อาจเกิดการเสียชีวิตในครรภ์มาแล้ว โดยทางแพทย์จึงได้วางแผนว่าจะให้ผ่าตัดหรือคลอดเอง ซึ่งมีอัตราเสี่ยง ทั้งแม่และลูกในท้อง ซึ่งทางคุณแม่ประสงค์ที่จะคลอดเอง เพื่อประโยชน์ต่อการมีลูกครั้งต่อไป ทางแพทย์จึงให้คลอดเอง และทางแม่ไม่สามารถคลอดเองได้ เนื่องจากปากมดลูกไม่เปิด ทางแพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าออก แต่เนื่องจากทางแม่ของเด็ก ได้ดื่มน้ำไปมาก จึงต้องรอเวลา 6-8 ชั่วโมง จึงทำการผ่าคลอดตอนดึก และเสียชีวิตในครรภ์ก่อนการผ่าตัด
โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาล ยังระบุว่า สาเหตุของการสื่อสารข้อมูล ของทางคณะแพทย์ ซึ่งมารดาที่มีโรคเบาหวาน จะมีอัตราเสี่ยงสูงกับการมีลูก ในส่วนทางผู้เสียหาย ถ้าจะร้องเรียนเรียกร้องความเสียหาย สามารถยื่นได้ ที่หน่วยบริการของโรงพยาบาล ซึ่งทางแพทย์จะตั้งขณะกรรมการสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงในการสอบสวนการเสียชีวิตต่อไป