ใครว่าไม่สำคัญ!! เช็กทีเด็ดบน “ม้านั่งสำรอง” ยอดทีมฟุตบอลโลก

ในเกมนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 ถึงแม้ขุนพล “หมีขาว” รัสเซีย จะต้องเสีย อลัน ซาโกเยฟ ที่ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป แต่การส่ง เดนิส ชิริเชฟ ลงมาแทนที่ก็ดูเหมือนจะเป็นเกมของ รัสเซีย ดีขึ้น และที่สำคัญ ชิริเชฟ ยังสวมบท “ซูเปอร์ซับ” ยิง 2 ประตูช่วยให้ขุนพล “หมีขาว” ถล่มเอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบขาดลอย 5-0  พร้อมทั้งเก็บ 3 แต้มได้เป็นประเดิม และหยุดสถิติที่ไม่ชนะใครถึง 7 นัดลงได้สำเร็จ

[caption id="attachment_286303" align="aligncenter" width="715"] ชิริเชฟ ตัวสำรองทีเด็ดของ รัสเซีย ในเกมนัดเปิดสนาม[/caption]

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ผู้เล่นตัวสำรอง ถือว่า สำคัญกับทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากมี “อะไหล่” ที่ทดแทน “ตัวจริง” ได้ ก็น่าจะทำให้ทีมไม่เสียสมดุล และแข็งแกร่งดังเดิม ซึ่งในบรรดาตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ต่างก็มีคุมกำลังใน “ม้านั่งสำรอง” ที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละทีมจะเก็บใครไว้เป็น “ไม้ตาย” บ้าง ไปติดตามกันครับ

มาริโอ โกเมซ-จูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เยอรมัน)

ผู้เล่นในเกมรุกที่ โยอาคิม เลิฟ กุนซืออินทรีเหล็ก จะเลือกให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงคงหนีไม่พ้น มาร์โก รอยส์, ติโม แวร์เนอร์ และโธมัส มุลเลอร์ แต่ถ้าหากทั้งหมดเกิดเล่นได้ผิดฟอร์ม ในม้านั่งสำรองของ เยอรมัน ก็มีตัวสำรองระดับพระกาฬอีกหลายคน คนแรกคือ มาริโอ โกเมซ กองหน้าจอมเก๋าวัย 32 ปี จากสตุ๊ตการ์ท ที่มีประสบการณ์ค้าแข้งกับทีมดังในยุโรปทั้ง ฟิออเรนติน่า, บาเยิร์น มิวนิค และ เบสิคตัส โดยซีซั่นที่แล้ว โกเมซ ซัดไป 8 ประตูกับ สตุ๊ตการ์ท ส่วนทีมชาติเยอรมัน เขายิงไปแล้ว 31 ลูก จาก 75 นัด ส่วนอีกคนคือ จูเลี่ยน แดร็กเลอร์ ปีกจอมเทคนิคจากปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์ ที่ถือว่า ทำผลงานกับต้นสังกัดได้ไม่ขี้เหร่ ยิงไป 4 ประตูจาก 29 นัด และยามใดที่เจ้าตัวลงเล่นกับทีมชาติก็มักจะทำผลงานได้ดีเสมอ โดยลงเล่นไป 44 นัด ซัด 6 ประตู

โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่-เฆซุส นาบาส (บราซิล)

เนย์มาร์-คูตินโญ่-วิลเลียน คือสามประสานในแนวรุกของทีมชาติบราซิลในยุคของ ติเต้ กุนซือคนปัจจุบัน แต่ในม้านั่งสำรองขุนพล “เซเลเซา” ยังมีนักเตะที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกมอีกเพียบ ทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับ ลิเวอร์พูล โดยยิงไปถึง 27 ประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ส่วนอีกคนที่น่าจับตามองก็คือ เฆซุส กองหน้าดาวรุ่งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีก โดยยิงไปทั้งหมด 17 ประตู ขณะที่ในทีมชาติบราซิล เจ้าตัวลงเล่นไปเพียงแค่ 17 นัด แต่ซัดไปถึง 10 ประตู นอกจากนี้ยังมี เฟร็ด, ไทสัน และ ดักลาส คอสต้า คอยแสตนบายด์อีกด้วย

มิตชี่ บาตซูอายี่-มารูยาน เฟลไลนี่  (เบลเยียม)

ถ้าจะบอกว่านี่คือ “ยุคทอง” ของวงการฟุตบอลเบลเยียมก็ไม่ผิดนัก เพราะทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ อุดมไปด้วยสุดยอดนักเตะแนวรุก โดยตัวจริงนอกจากจะมี เอแด็น อาซาร์, เควิน เดอ บรอย, ดรีส เมอร์เทนส์ และ โลเมลู ลูกากู แล้ว ใน “ม้านั่งสำรอง” ก็ยังมีนักเตะดีๆ ให้เลือกใช้งานในการแก้เกมอีกเพียบ คนแรกเป็น มิตชี่ บาตชูอายี่ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อซีซั่นที่แล้ว หลังยิงไปถึง 7 ประตูจากการลงเล่นแค่ 10 นัด นอกจากนี้ยังมี มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มักจะโดน มาร์ติเนซ เปลี่ยนลงไปเล่นเป็นแนวรุก และมักจะทำประตูได้บ่อยครั้งด้วย โดยที่ผ่านมา เฟลไลนี่ ติดทีมชาติไปแล้ว 82 นัด ซัดไป 17 ประตู

[caption id="attachment_286305" align="aligncenter" width="715"] นาบิล เฟร์คี จะฉายแสงในเวิลด์คัพครั้งนี้ได้หรือไม่ต้องติดตาม[/caption]

นาบิล เฟร์คี-มุสซ่า เดมเบลเล่ (ฝรั่งเศส)

นี่คือ 2 นักเตะอนาคตไกลของทีมชาติฝรั่งเศส โดยถ้าหาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์ และ คีเลียน เอ็มปับเป้ โชว์ฟอร์มไม่ออก เฟร์คี กับ เดมเบลเล่ ก็พร้อมจะสอดแทรก โดย เดมเบลเล่ ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงท้ายให้กับ บาร์เซโลน่า โดยลงเล่นไป 23 นัด ซัดไป 4 ประตู ขณะที่ เฟร์คี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมในยุโรป โดยเจ้าตัวยิงให้ โอลิมปิก ลียง ต้นสังกัดในฤดูกาลที่แล้วถึง 23 ประตู จาก 39 นัด

กอนซาโล่ อิกัวอิน-เปาโล ดิบาล่า (อาร์เจนติน่า)

ฮอร์เก้ ซัมเปาลี กุนซือ “ฟ้าขาว” ชื่นชอบที่จะใช้ ลีโอเนล เมสซี่ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ โดยมี อังเคล ดิ มาเรีย คอยสนับสนุน แต่ถ้าหาก กุน หรือ เมสซี่ ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี ซัมเปาลี ก็ยังมีตัวเลือกในม้านั่งสำรองถึง 2 คน ที่มาจากสโมสรเดียวกันคือ “ม้าลาย” ยูเวนตุส แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ทีมล่าสุด คนแรกคือ กอนซาโล่ อิกัวอิน ที่ซัดไปถึง 55 ประตู ให้กับต้นสังกัดใน 2 ฤดูกาลล่าสุด และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ ยูเว่ คว้าแชมป์ลีก ส่วนทีมชาติ อิกัวอิน ก็ถือว่า ยังไว้ใจได้เสมอ โดยลงเล่นไป 70 นัด ซัดไป 31 ประตู อีกหนึ่งคนเป็นดาวยิงรุ่นน้องคือ เปาโล ดิบาล่า ที่ซัดให้ ยูเว่ ไป 26 ประตูเมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่ในส่วนของ ดิบาล่า ต้องรอเวลาพิสูจน์ตัวเองในทีมชาติอีกสักระยะ เพราะมักทำผลงานได้ไม่ดี และยังประตูในนามทีมชาติไม่ได้เลย

[caption id="attachment_286304" align="aligncenter" width="715"] อัสปาส เล่นเหมือนเป็นคนละคนกับตอนที่อยู่ ลิเวอร์พูล[/caption]

โรดริโก้-ยาร์โก้ อาสปาส (สเปน)

ดีเอโก้ คอสต้า คือกองหน้าเบอร์หนึ่งที่ เฟอร์นานโด เอียร์โร่ นายใหญ่คนใหม่กระทิงดุจะเลือกใช้ในเวิลด์คัพครั้งนี้ แต่ สเปน ยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจในม้านั่งสำรองอยู่อีกหลายคน เริ่มจาก ยาโก้ อาสปาส กองหน้าจากเซลต้า บีโก้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังซัดไป 23 ประตูจาก 37 นัด ที่สำคัญเมื่อได้รับโอกาสลงเล่นทีมชาติ อาสปาส ก็ทำผลงานได้ดีโดยลงเล่นไปแค่ 10 นัด เจ้าตัวซัดไปแล้ว 5 ลูก ขณะที่ โรดริโก้ ก็มีฤดูกาลที่ดีกับ บาเลนเซีย โดนเขาผลิตสกอร์ให้กับ “ไอ้ค้างคาว” ไป 19 ประตูในซีซั่นนี้ และยิงไปแล้วให้กับ ทีมชาติสเปน 2 ประตูจากการลงเล่นแค่ 5 นัด