ชุดพญาเสือ นำกำลังทวงคืนผืนป่าภูวัว บึงกาฬ

วันนี้ (16 มิ.ย. 61)  นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี (รักษาการหัวหน้าชุดพญาเสือ) นำกำลังเจ้าหน้าชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารที่ 10 อุดรธานี  เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว  เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าบึงโขงหลง ตำรวจป่าไม้และหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ กว่า 100 นาย  ร่วมปฏิบัติการทวงคืนฝืนป่าในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว อุทยานแห่งชาติภูลังกา และเขตห้ามล่าบึงโขงหลง ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ

โดยในช่วงเช้ามีการประชุมเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการปฏิบัติการและแบ่งชุดการทำงาน ที่สำนักงานเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว ต.บุ่งคล้า  อ.บุ่งคล้า  จ.บึงกาฬ ก่อนจะนำทีมส่วนหนึ่งลงพื้นที่สำรวจสวนยางพารา 2 แปลง ในพื้นที่ บ้านเทพมีชัย ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า ที่มีการบุกรุกพื้นที่ของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว จำนวน 105 ไร่  มีผู้บุกรุกถือครองจำนวน 2 คน โดยมีการก่อสร้างบ้านพักอาศัยที่ถาวรไว้ด้วย

นายชัยวัฒน์  กล่าวว่า บริเวณจุดที่ลงพื้นที่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว  ไม่มีเอกสารสิทธิ  ตามมติครม. 30 มิถุนายน 2541 ก่อนปี 2545 มีสภาพเป็นพื้นที่ป่า จากการตรวจสอบพบว่าแปลงแรกผู้ครอบครองเป็นข้าราชการ อ้างว่าซื้อสิทธิพื้นที่มาจาก นส.2  ของคนอื่น  แต่ข้อเท็จจริง นส.2 ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นได้  และใน นส.2 มีพื้นที่แค่เพียง 20 ไร่ แต่จากการตรวจสอบอาจจะมีมากกว่า 40 ไร่ โดยบุคคลดังกล่าวได้มาถือครองพื้นที่นี้ตั้งแต่ปี 46  ซึ่งจะขาดเจตนาหรือไม่ก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ เป้าหมายในพื้นเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัวมีผู้บุกรุกประมาณ 20 แปลงที่ต้องดำเนินการทวงคืน  ซึ่งมีทั้งที่เป็นแปลงเล็กๆและแปลงใหญ่  การตรวจสอบจะพิจารณาจากภาพถ่ายย้อนหลังและมีการตรวจเอกสารว่าได้มาจากที่ใดและได้มาอย่างไร ซึ่งการตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้ มีผู้บุกรุกพื้นที่จำนวน 2 แปลง เป็นข้าราชการทั้งสองคน รวมพื้นที่ทั้งสองแปลงจำนวน 105 ไร่

สำหรับ พื้นที่ในสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี มีจังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบ 6 จังหวัดคือ อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร บึงกาฬและนครพนม ซึ่งมีเป้าหมายจะดำเนินการทวงคืนผืนป่ากว่า 10,000 ไร่ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้