สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า สหรัฐฯได้ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชอาร์ซี แล้ว หลังไม่พอใจที่ชาติสมาชิกในองค์กรมีอคติต่อต้านอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง ท่ามกลางความกังวลในหมู่นักเคลื่อนไหวว่าการตอบโต้ของสหรัฐฯครั้งนี้จะทำให้ความก้าวหน้าในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนทั่วโลกยากลำบากขึ้น
โดยนางนิกกิ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวตำหนิรัสเซีย, จีน, คิวบา และอียิปต์ ว่าขัดขวางความพยายามของสหรัฐฯในการปฏิรูปยูเอ็นเอชอาร์ซี นอกจากนี้ยังวิพากษ์วิจารณ์นานาประเทศที่ใช้สหรัฐฯเป็นเครื่องมือ หาผลประโยชน์ รวมถึงแสดงการสนับสนุนสหรัฐฯแต่ไม่เต็มใจที่จะก้าวสู่การเปลี่ยนสถานภาพอย่างจริงจังอีกด้วย ซึ่งนางเฮลีย์ระบุอีกว่า เธอต้องการทำให้ชัดเจนว่าขั้นตอนนี้ไม่ใช่การถอยห่างจากความมุ่งมั่นในเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เป็นเพราะความมุ่งมั่นของสหรัฐฯไม่ได้ทำให้สหรัฐฯเป็นส่วนหนึ่งของยูเอ็นเอชอาร์ซี ที่เป็นองค์กรหลอกลวงและหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง
ที่ผ่านมา สหรัฐฯมักโจมตียูเอ็นเอชอาร์ซี ว่ามีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอลมาโดยตลอด นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเคยไม่พอใจท่าทีของยูเอ็นเอชอาร์ซีจนพิจารณาถอนสหรัฐฯออกจากการเป็นหนึ่งใน 47 ประเทศสมาชิกของยูเอ็นเอชอาร์ซีมาแล้ว
ทั้งนี้ สหรัฐฯมีความขัดแย้งกับยูเอ็นเอชอาร์ซีเสมอมา เพราะอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยปฏิเสธเข้าร่วมเป็นสมาชิกยูเอ็นเอชอาร์ซีมาก่อน ในตอนที่องค์กรก่อตั้งเมื่อปี 2006 แต่หลังจากที่นายบารัก โอบามา ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกยูเอ็นเอชอาร์ซีในปี 2009
