อาถรรพ์ ! ของพิธีกรชายรายการ ”เรื่องเล่าเช้านี้”

วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง พิพากษาจำคุกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย และพิธีกรรายการข่าว เป็นเวลา 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ในคดียื่นเท็จบัญชีทรัพย์สิน ศาลพิพากษาว่า จำเลยจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ห้ามจำเลยดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2556 ที่พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครั้งที่ 2 และให้จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน จำเลยเคยรับโทษจำคุกเกิน 6 เดือน ไม่ใช่คดีหมิ่นประมาทหรือลหุโทษ และพ้นโทษมาไม่เกิน 5 ปี จึงไม่รอการลงโทษ

หลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายชูวิทย์ ไม่ยื่นขอประกันตัวเพื่ออุทธรณ์คำพิพากษา แต่นายชูวิทย์ตัดสินใจเข้ารับโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทำให้วันนี้ทางผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ต้องมีการปรับเปลี่ยนผังรายการ เพื่อหารายการอื่นมาทดแทนรายการชูวิทย์ตีแสกหน้า ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ในเวลา 17.00น. – 17.30 น เช่นเดียวกับผุ้บริหารของบริษัทไร่สม ที่ต้องปรับเปลี่ยนผังรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ที่ออกอากาศทางไทยทีวีสี ช่อง 3 ใหม่เช่นกัน

แม้ศาลจะพิพากษาโทษจำคุกเพียงระยะเวลาแค่ 1 เดือน อาจจะใช่เรื่องยากที่นายชูวิทย์ จะปรับตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพราะก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ เคยใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำแห่งนี้มาแล้ว 10 เดือน 17 วัน หลังถูกศาลฏีกาพิพากษาจำคุก 2 ปีในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท ซอย 10

แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนอาจจะกำลังตั้งคำถามว่า การที่นายชูวิทย์ ต้องเข้าเรือนจำอีกครั้ง เป็นเพราะอาถรรพ์ของตัวพิธีกรชายในรายการ”เรื่องเล่าเช้านี้” หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายสรยุทธ สุทัศนจินดา พิธีกร และกรรมการผู้จัดการบริษัทไร่ส้ม ถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดนายสรยุทธ ในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทไร่ส้ม จำกัด สำหรับคดีดังกล่าว เริ่มจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สน.ห้วยขวาง เมื่อปลายปี 2550 ให้ดำเนินคดีกับพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 คน ในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธในฐานะผู้สนับสนุน ทำให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาท และ สน.ห้วยขวางได้ส่งสำนวนทั้งหมดให้คณะกรรม ป.ป.ช.เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550

พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 13 ปี 4 เดือนไม่รอลงอาญาปรับเงินบริษัทไร่ส้ม 8 หมื่นบาท โดยสรยุทธ ได้อุทธรณ์สู้คดีต่อวางหลักทรัพย์ประกันตัวสองแสนบาท และนั้นทำให้นายสรยุทธ ต้องยุติบทบาทการทำหน้าที่สื่อมวลชน ในฐานะพิธีกรข่าว

จนกระทั้ง 29 สิงหาคม 2560 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยในคดีเป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน ก่อนที่นายสรยุทธ จะถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนจะยื่นประกันตัวต่อศาลฎีกา เพื่อขอต่อสู้คดี

ซึ่งต่อจากนี้ต้องมาดูท่าทีของคนในวงการสื่อสารมวลชน ว่าจะมีการออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรกับบทบาทการทำหน้าที่สื่อมวลชน ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต่อจากนี้