Time Line (วันที่ 10 ) 2ก.ค.61 ต้องรอด ! ปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวงฯ จ.เชียงราย

Time Line (วันที่ 10 ) ต้องรอด ! ปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวงฯ จ.เชียงราย

22.00 น. (วันที่ 1 มิ.ย. 61) ทีมซีล ดำน้ำถึงสามแยกเเล้ว พร้อมปฏิบัติการเก็บภาพโดยกล้องโกโปร และดูรูลอดไปพัทยาบีช เพื่อนำภาพมาวิเคราะห์ ประเมินเส้นทางในการทำงานต่อไป

24.00 น. (วันที่ 2 มิ.ย. 61) ความคืบหน้าการตรวจสอบเคาะผนังถ้ำหลายครั้ง มีเสียงดังกลับมา ซึ่งไม่ฟังธงเป็นเสียงสะท้อนหรือการตอบกลับ คืบหน้าล่าสุดพบว่าเป็นโพรงตัน เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าสำรวจต่อเนื่อง

01.00 น. ยังไม่เจอน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ทั้ง 13คน

01.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงลำเลียงก็ยังทยอยขนถังอากาศเข้าไปในถ้ำหลวงอย่างต่อเนื่อง ส่วนทีมด้านนอกถ้ำหลวง ยังคงเร่งอัดอากาศกันอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับทีมสูบน้ำออกจากถ้ำก็ยังเดินเครื่องกันตลอด 24 ชม.

01.00 น. ทีมดำน้ำวางไลนได้ถึงจุดสามแยกแล้ว ถัดจากบริเวณ 3 แยกไปนั้นจะเป็นจุดที่เป็นโพรงแคบ ต้องลอดตัวเข้าไป

04.00 น. ระดับน้ำที่จุดเริ่มดำน้ำ (โถง 3) 37 ซม.

06.00 น. สถานการณ์สภาพอากาศยังโอเคในเช้านี้ ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นแบบนี้ไปตลอดทั้งวัน

07.00 น. เครื่องอัดอากาศ 7 เครื่อง เครื่องไฟฟ้า 3 เครื่อง เครื่องยนต์ 4 เครื่อง สามารถอัดอากาศได้ 16 ขวด/ชม. เริ่มอัดอากาศ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. สามารถอัดอากาศแล้ว 175 ขวด ลำเลียงเข้าไปในถ้ำแล้ว 100 ขวด

08.00 น. กู้ภัยจากมิตรประเทศ และ SEAL ของไทย ประชุมวางแผน ซึ่งถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ดูใหญ่กว่าทุกวันที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา SEAL ของไทย สามารถนำแนว เชือกนำไปติดไว้ จนถึงจุดที่เป็น 3 แยก ซึ่งจากแผนที่ถ้ำหลวง ถ้านับจากจาก 3 แยก เลี้ยวซ้ายไปถึงจุดที่เรียกว่าพัทยาบีชระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร // การวางแผนรอบนี้ เป็นการวางแผนลงถ้ำในจุดที่เลย 3 แยกไป // และจัดกำลังทหารจากประเทศที่มีความสามารถสูง ในจุดที่มีน้ำท่วมสูง 10 เมตรด้วย แบ่งกำลังออกเป็น 4 เฟส // การลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากถ้ำ กรณีเจอทั้ง 13 คน จะใช้วิธีลำเลียงแบบส่งต่อ // พร้อมจัดทหารไทย ที่สามารถแปลภาษา ประจำจุดแยก และจุดต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวก

08.50 น. กฟผ. ส่งกล้อง Borescope สำหรับส่องในพื้นที่แคบอีก 2 เครื่อง ถึงเชียงรายแล้ว พร้อมร่วมปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ทันที

09.00 น. กฟผ.เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ นำถังอากาศ จำนวน 20 ถัง และเรกกูเรเตอร์ 10 ชุด เดินทางถึงถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแล้ว พร้อมรายงานตัวกับหน่วยซีล เตรียมร่วมสนับสนุนภารกิจค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13  คน

09.30 น. การปฏิบัติการของ NAVY SEAL (09.30 - 15.00 น.) 1. ลำเลียงขวดอากาศ 100 ขวด รวมถึงอุปกรณ์สนับสนุน เช่น Surface Supply , เข็มขัดตะกั่ว , แท่งเรืองแสง (chemical light stick) เป็นต้น ไปไว้ที่โถง 3 โดยใช้นักดำน้ำจากประเทศต่างๆ และจากทุกส่วนที่มาสนับสนุนช่วยในการลำเลียง และจะใช้ขวดอากาศ 100 ขวด ที่นำมาไว้ที่โถง 3 เพื่อดำน้ำต่อระยะไปที่สามแยก (การดำเนินการลำเลียงขวดอากาศจากปากถ้ำไปยังสู่โถง 3 ระยะทางประมาณ 3 กม. ใช้การลำเลียง 1 คน ต่อ 1 ขวด ใช้เวลาในการลำเลียงประมาณ 1 ช.ม.) // 2. ดำเนินการวางเบสไลน์จากจุดเริ่มดำน้ำไปยังสามแยก (ระยะประมาณ 600 ม.) ให้เสร็จสิ้นด้วยชุดช่วยเหลือและค้นหาฯ (NAVY SEAL) ที่จัดเป็น 6 ชุด (SEAL 1 - 6) จากนั้นจะทำการส่งนักดำน้ำเข้าสำรวจเส้นทางไป และวางแผนในการเคลื่อนตัวไปยังหาดพัทยา (ระยะทางประมาณ 600 ม.จากสามแยก) ต่อไป

09.10 น. พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งเสริม “หน่วยซีล” 20 นาย ลุยถ้ำหลวง เพื่อช่วย “ทีมหมูป่าอะคาเดมี่”

เวลา 10.00 น. ระดับน้ำที่จุดเริ่มดำน้ำ (โถง 3) 33 ซม.

10.05 น. กฟผ. ส่งทีมขึ้นสำรวจผาหมี

10.45 น. นายณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือ การทำงานคืบหน้าไปได้ดี และหวังว่าวันนี้จะคืบหน้าไปได้อีก หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ขณะนี้หน่วยซีลไปถึงบริเวณโถงสามแยก ตั้งกองบัญชาการที่ตั้งไว้ที่โถง 3 ในถ้ำมีระบบน้ำ โทรศัพท์ ไฟฟ้า สื่อสารติดต่อกับด้านนอกได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันได้นำขวดออกซิเจนเข้าไปเมื่อวานกว่า 200 ขวด วันนี้จะนำเข้าไปอีกกว่า 300 ขวด ซึ่งซีลจะสามารถปฏิบัติงานได้ โดยที่ไม่ต้องออกมาด้านนอก

11.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานสิ่งของสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ประกอบด้วยชุดดำน้ำ 30 ชุด ถุงดำ 2 กระสอบ ถุงซิปล็อค 2 กระสอบ กาต้มน้ำ 2 ตัว ปลั๊กไฟ 1 กล่อง เทปกาว 1 กล่อง และผ้าห่มให้ความอบอุ่น 1 โหล ยังความปลื้มปิติแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ญาติพี่น้องของผู้ประสบเหตุอย่างล้นพ้น

11.00น. “ชุดปฏิบัติการรบพิเศษ ค้นหากู้ภัย ทบ.”ใช้ เฮลิคอปเตอร์ MI 17 นำทีมวิศวกร พร้อม เครื่องมือขุดเจาะส่งลงทางอากาศยังพื้นที่ ขุดเจาะที่ได้สำรวจไว้แล้ว บริเวณเหนือหาดพัทยา พร้อมขุดเจาะ

11.30 น. ฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ พระราชทานเงิน 5 แสนบาท นำไปจัดซื้ออาหาร ยา และสิ่งของจำเป็น เป็นทุนในการค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง

11.35 น. เฮลิคอปเตอร์ MI 17 V-5 ของกองพันบินที่ 41 ขนย้ายเครื่องขุดเจาะ แบล็คโฮ รถไถ และ เครื่องปั่นไฟ พร้อมกำลังพลไปยังดอยผ่าหมี

12.00 น. เวลา 12.00 น. ระดับน้ำที่จุดเริ่มดำน้ำ (โถง 3) 36 ซม.

13.30 น. พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสนาธิการทหารเรือ พร้อมคณะ และกำลังพลของ นสร.กร. (NAVY SEAL) จำนวน 20 นาย พร้อมขวดอากาศ จำนวน 200 ขวด , สายปรับกำลังดัน (Regulator) จำนวน 200 เส้น , อุปกรณ์สื่อสาร จากกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ และแท่งเรืองแสง (chemical light stick) จากกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ 3,500 แท่ง ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดย เครื่องบินลำเลียง (C-130) ของกองทัพอากาศ  ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

13.53 น. บายพาสน้ำเข้าถ้ำหลวงสำเร็จ หลังใช้ระยะเวลาในการทำงานติดต่อกันนานถึง 9 ชม.  ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน บอก การดำเนินการก่อสร้างฝายเพื่อผันน้ำข้ามพื้นที่รอยแตกเป็นระยะทาง 350เมตร ที่คาดว่าเป็นจุดที่น้ำไหลเข้าไปเพิ่มเติมในถ้ำจำนวน 2 ฝาย แล้วเสร็จ // ฝายแห่งที่ 1ใช้ท่อผันน้ำขาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาว 400 เมตร จำนวน 4 แถว สามารถผันน้ำได้มากกว่า 0.2 ลบ.ม./วินาที  // ฝายแห่งที่ 2 ใช้ท่อผันน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาว 400 เมตร จำนวน 3 แถว สามารถผันน้ำได้มากกว่า 0.15 ลบ.ม./วินาที และใช้ร่วมกับท่อลำเลียงน้ำของชาวบ้านที่มีอยู่เดิม 0.05 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งสิ้นสามารถผันน้ำได้มากกว่า 0.4 ลบ.ม./วินาที อัตราการผันน้ำรวม 34,560 ลบ.ม./วัน ในกรณีที่ระบายน้ำเต็มศักยภาพของท่อผันน้ำ

17.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลง ปฎิบัติการช่วย 13ชีวิตติดถ้ำหลวง เผยความคืบหน้าที่ชัดเจนที่สุดคือสามารถลดน้ำเข้าถ้ำได้สำเร็จ // ยืนยันเย็นวันนี้ทีมซีลยังอยู่บริเวณโถงที่3 แต่สามารถลากเบสไลนไปยังจุดสามแยกได้ แต่ที่สำเร็จคือการติดตั้งถังออกซิเจนให้มีเพียงพอต่อการทำงาน // การซูบน้ำออกจากถ้ำไทรทอง ประสบความสำเร็จระดับน้ำภาพรวมลดลงต่อเนื่อง // ฝากย้ำผู้ที่จะประสานเข้าไปทำงานในพื้นที่ ต้องขออนุญาติก่อน // ยืนยันการช่วยเหลือเคลื่อนย้าย 13ชีวิตออกจากถ้ำมีความเป็นไปได้ แม้ติดถ้ำนาน 10 วัน ตามทฤษฎีร่างกายจะปรับตัวเองโดยธรรมชาติ เตรียมส่งทีมแพทย์เข้าดูแลรักษา ประเมินสถานการณ์ก่อนเคลื่อนย้ายแน่นอน ไม่ว่าจะใช้ช่องเป็นทางไหน โพรงที่เจาะ หรือทางปกติ เชื่อมั่น ทั้ง 13ชีวิต ยังอยู่ดี ขอให้ทุกคนช่วยสวดมนต์ให้ทั้ง 13 คนอยู่ปกติสุข

17.10 น. นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทธยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช แถลงความคืบหน้าการทำฝายเบียงทางของน้ำไม่ให้เข้าไปเพิ่มเติมในถ้ำ จำนวน 2 ฝาย แล้วเสร็จ

17.15 น. พลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่3 ชี้แจงโพรงที่พบและทำการสำรวจวันนี้ 6 โพรงล่าสุด มี1โพรงที่สำรวจแล้วลึก 400เมตรและไปต่อได้อีก ส่วนอีกโพรงสำรวจแล้วลึกลงไป 50 เมตร และยังไปต่อได้ ส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับข้อมมูล // ในด้านการสำรวจพื้นที่เหมาะสมแก่การเจาะโพรงถ้ำ บนเขานั้น สามารถขนยายอุปกรณ์เครื่องเจาะ ขึ้นไปแล้ว เหลืออีก1เที่ยวบิน หากขนย้ายอุปกรณ์ครบสามารถประกอบเสร็จจะทำการเจาะในคืนนี้ // ส่วนการพร่องน้ำที่รับผิดชอบ 2 จุด ทั้งในถ้ำและนอกถ้ำนั้นเป็นไปได้ด้วยดี  และได้เติมเครื่องสูบน้ำท่อซิ่งไปอีก 2 เครื่อง

17.25 น. พล.ต บัญชา ดุริยะพันธ์ ผบ.มทบ.37 แถลงความคืบหน้าการสำรวจ ถ้ำทรายทองลึกเข้าไป 900 เมตร พบมีตาน้ำ ได้ทำการขุดเจาะตาน้ำถ้ำทรายทองสามารถช่วยระบายน้ำได้ดี ทำให้ระดับน้ำลดลงมากแล้ว