หนุ่มที่ตบหัวลุงในร้ายสะดวกซื้อเดินทางพบตำรวจ สน.เพชรเกษม รับทราบข้อหาทำร้ายร่างกาย โดนเปรียบเทียบปรับ 500 บาท ด้านคู่กรณีไม่ติดใจ แต่ขอเงินค่าทำขวัญ 500 บาท พม.ส่งคนเข้าดูแล
จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อจากนั้นก็เดินตรงเข้ามาตบหัวคนแก่ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่เกิดขึ้น พร้อมกดดันจนทางฝั่งวัยรุ่นคู่กรณีได้ออกมาขอขมาแล้วด้วยการคุกเข้ากราบขอขมาไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00น.วันนี้ (12 ก.ค.) นาย ปรีชา ปิตะสิงห์ อายุ 38ปี ชายที่เป็นผู้ก่อเหตุตบศีรษะ ชายชรา และนาย สัญญา เชื้อสายดิษฐ์ อายุ57 ชายชราที่เป็นผู้ถูกตบศรีษะภายในคลิป เดินทางมาที่ สน.เพชรเกษรม เพื่อร่วมกันให้ข้อมูลแถลงข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชน
โดย นาย ปรีชา เล่าว่าเขามีอาชีพขับรถจักรยานยนต์สาธารณะตลาดบางแค และพบเจอกับลุงสัญญา มากว่า 1 ปี ซึ่งทุกวันก็จะพูดเล่นกับลุงเมื่อเจอหน้ากัน บางครั้งก็ด่าทอตอบโต้กันไปมารวมไปถึงตบหัวลุง ซึ่งไม่แรง โดยเขาและลุงสัญญา ไม่เคยโกรธเคืองกัน บางครั้งยังสงสารให้เงินซื้อข้าวซื้อน้ำกิน และปกติเล่นแรงๆแบบนี้กันจนชินตาคนแถวๆนั้น แต่วันเกิดเหตุ มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถ่ายคลิปลุงอยู่ในร้านสะดวกซื้อเขาก็เดินเข้ามาในร้านสะดวกซื้อพอดี เห็นลุงยืนอยู่จึงเดินเข้าไปตบเหมือนทุกครั้ง แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนที่ถ่ายคลิปจะนำไปลงโซลเชียล ส่วนตัวแล้วเขาไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้หญิงคนที่ลงคลิปด้วย สำหรับเนื้อหาคลิปอาจจะดูว่าตบแรงแต่จริงๆ ไม่ได้แรงเลยแต่เสียงอาจจะดังจนน่าตกใจ
“หลังเกิดเรื่องคนในสังคมต่อว่าผมซึ่งผมก็ได้ไปกราบขอโทษลุงแล้ว และกราบขอโทษสังคมอีกครั้งที่ทำเรื่องไม่เหมาะสม ทุกวันนี้มีคนในสังคมนำรูปตนไปแชร์ต่อๆกัน ตามล่าผมตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องตนเห็นว่าชีวิตตนและแฟนสาวจะไม่ปลอดภัยจนต้องหอบหิ้วข้าวของหนีไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดซึ่ง ผมก็ได้รับการลงโทษจากสังคมแล้วในที่สังคมมองว่าเป็นการกระทำที่ผิดไป และขอให้สังคมให้อภัยกับผมและให้โอกาสผม”
ด้านนายสัญญา คู่กรณีซึ่งมีปัญหาเรื่องการพูดคุยและจับใจความค่อนข้างยาก ตอบคำถามกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆว่า “เล่นแบบนี้กันประจำ และไม่เคยโกรธ นายปรีชาเลย”
ขณะที่ พ.ต.ท.วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รองผู้กำกับการปราบปราม สน.เพชรเกษม ระบุว่าจากการสอบถามเรื่องราวและตรวจสอบประวัติทราบว่า ลุงสัญญา เป็นคนไทย และมีญาติอยู่ ย่านภาษีเจริญ โดยได้เดินทางมาทำงานที่ตลาดบางแคและพักอาศัยกับเพื่อน อยู่นานหลายสิบปี ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนพบว่า ลุงสัญญา มีสติปัญญาปกติดี แต่มีปัญหาเรื่องการพูดคุยสื่อสารค่อนข้างยากต้องตั้งใจฟัง
ทั้งนี้ได้นำลุงสัญญาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลไม่พบปัญหากระทบกระเทือนทางร่างกายแต่อย่างใด มีเพียงปัญหาสายตาที่เริ่มมองไม่เห็นเท่านั้น ส่วนการที่นายปรีชา บอกว่าเป็นการเล่นกัน ไม่ได้จงใจกระทำให้ได้รับบาดเจ็บแต่ด้วยความไม่เหมาะสม และมีความผิดลหุโทษ พ.ต.ต.ศุภชัย อ่วมประเสริฐ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.เพชรเกษม ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมปรับเป็นจำนวนเงิน 500 บาท
ส่วนลุงสัญญา นั้นได้สอบถามพร้อมญาติและเพื่อน ลุงไม่โกรธนาย ปรีชาและไม่ได้มีความต้องการจะแจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด ขอแค่เงินค่าทำขวัญจากนายปรีชา 500 บาทเท่านั้น ขณะที่ความช่วยเหลือด้านสังคมนั้นจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เข้ามาช่วยเหลือในสิ่งที่ลุงจำเป็นและต้องการ
ซึ่ง นาง สิรินุช อันตรเสน ผู้อำนวยการบ้านพักคนชราบางแค เผยว่า สำหรับ พม. และบ้านบางแคนั้นในวันนี้ได้เข้ามาสอบถามเรื่องราวและทำบันทึกข้อมูลซึ่งขณะนี้ทำได้เพียงการช่วยเหลือ และนำข้อมูลไปประชุมเพื่อหารือก่อนเข้าช่วยเหลือในเรื่องที่จำเป็นทั้งเรื่องสุขภาพและการเป็นอยู่ ในส่วนที่คุณลุงสัญญา ต้องการ