svasdssvasds

กวาดล้าง! แรงงานต่างด้าวเถื่อนดำเนินคดีไปแล้วกว่า 800 คน

กวาดล้าง! แรงงานต่างด้าวเถื่อนดำเนินคดีไปแล้วกว่า 800 คน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันนี้ (17 กรกฎาคม 2561) ที่ห้องประชุมประสงค์ รณะนันนท์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมสรุปผลการจัดชุดปฏิบัติการ 113 ชุด ตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวทั่วประเทศ หลังปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service 15 วัน (1-15 กรกฎาคม 2561)

กวาดล้าง! แรงงานต่างด้าวเถื่อนดำเนินคดีไปแล้วกว่า 800 คน

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จากการเปิดให้มีการจัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจลงตรา (วีซ่า) และขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา ลาว เมียนมา ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบถูกต้องตามกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 1,187,803 คน คิดเป็น 90 %

-กัมพูชา 350,840 คน

-ลาว 59,746 คน

-เมียนมา 777,217 คน

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของชุดปฏิบัติการ 113 ชุด

(ตั้งแต่วันที่ 1-15 กรกฎาคม 2561)

-ตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการไปแล้วจำนวน 1,623 ราย/แห่ง

-ตรวจสอบแรงงานต่างด้าว จำนวน 30,111 คน

-จับกุมดำเนินคดีนายจ้าง 156 ราย/แห่ง คิดเป็น 9.61 %

-ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าว จำนวน 816 คน คิดเป็น 2.70 %

ส่วนใหญ่เป็นเมียนมา 415 คน รองลงมาเป็นกัมพูชา 267 คน ลาว 78 คน เวียดนาม 36 คน และสัญชาติอื่นๆ 20 คน ตามลำดับ

โดยนายจ้างมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อหารับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จำนวน 119 ราย/แห่ง ความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ข้อหา 1) ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น คนต่างด้าวผิดกฎหมาย 2) ให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยไม่แจ้ง จำนวน 2 ราย/แห่ง และมีความผิดทั้ง พรก.การบริหารฯ และ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จำนวน 35 ราย/แห่ง แรงงานต่างด้าวมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จำนวน 687 คน ความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ข้อหา (1) อยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (2) ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต และ (3) ไม่แจ้งการอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน จำนวน 291 คน

ทั้งนี้ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมายจะต้องได้รับโทษตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อหา

“รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน

หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี

ส่วนแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ

ขณะเดียวกันทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดย นายจ้างให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น คนต่างด้าวผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยไม่แจ้ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ขณะที่แรงงานต่างด้าว 1) อยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2) ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน10,000 บาท 3) ไม่แจ้งการอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมเมื่อคดีอาญาสิ้นสุดแล้วจะถูกส่งกลับโดยเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีเส้นทางในการผลักดันส่งกลับคือ กัมพูชาที่จังหวัดสระแก้ว ลาวที่จังหวัดหนองคาย อุบลราชธานี และมุกดาหาร เมียนมาที่จังหวัดตาก เชียงราย สำหรับแนวทางต่อไปเมื่อครบ 3 ครั้ง จะเป็นการดำเนินการตามกฎหมายโดยตำรวจในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดจะมีคณะกรรมการร่วมตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความนุ่มนวล ใช้วาจาสุภาพ ไม่ใช้ความรุนแรง และขอแนะนำนายจ้าง/ผู้ประกอบการว่าหากมีแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ขอให้หยุดการจ้าง อย่าจ้างต่ออีกเป็นอันขาด เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษหนัก

related