กฟผ. ยัน "เขื่อนวชิราลงกรณ" ปลอดภัย แม้ระดับน้ำมากสุดรอบ 34 ปี

"เขื่อนวชิราลงกรณ" ระดับน้ำมากสุดรอบ 34 ปี ทะลุ 7 พันล้านลบ.ม.

นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หนังสือด่วนที่สุด แจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำ ท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ ถึง นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอท่าม่วง และนายอำเภอท่ามะกา แจ้งให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ที่อาจได้รับผลกระทบได้รับทราบ ว่า เขื่อนวชิราลงกรณ จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ จากเดิมอัตรา 23 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 28 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เนื่องจากเขื่อนยังต้องรับน้ำฝน ที่จะตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกกว่า 2 เดือน

ขณะที่ นายไววิทย์ แสงพาณิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสม 3,535.13 ล้านลูกบาศก์เมตร มากที่สุดในรอบ 34 ปี ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนล่าสุด มีปริมาณ 7,091.31 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 80.04 ของปริมาณน้ำที่เขื่อนสามารถกักเก็บได้ จึงมีความเสี่ยงอย่างมาก ที่จะมีน้ำเต็มเขื่อนจนต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉินสปิลเวย์ เหมือนเช่นปี 2537 ปี 2540 และปี 2545 ซึ่งระดับน้ำในเขื่อนขณะนี้สูงกว่าระดับน้ำใน 3 ปีที่มีการเปิดสปิลเวย์

กฟผ. เฝ้าระวังน้ำ "เขื่อนวชิราลงกรณ" ยืนยัน โครงสร้างแข็งแรง

ด้านนายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผย จากการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงพบ ว่า ยังคงมีแนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยัน เขื่อนของ กฟผ. ทุกแห่งยังคงมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย มีการออกแบบก่อสร้างเขื่อนที่เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ตลอดอายุการใช้งานกำหนดให้มีการตรวจสอบเป็นประจำ โดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งการตรวจวัดด้วยสายตาและการตรวจวัดด้วยเครื่องมือเป็นประจำทุกวันและทุกสัปดาห์

ซึ่งประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ WATER.EGAT.CO.TH หรือ www.vrk.egat.com ซึ่งสามารถดาวน์โหลดค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้อย่าง Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดจากกล้อง CCTV ของแต่ละเขื่อนอีกด้วย