svasdssvasds

สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

"เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" ยอมรับปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่บางแห่งมากกว่าปี 54 จริง แต่มั่นใจยังคุมได้ เตรียมเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วมเฝ้าระวังใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำเชิงลึก ซึ่งต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 11 แห่ง เพราะคาดการณ์ว่าอีก 1 เดือนข้างหน้าปริมาณน้ำอาจจะสูงมากกว่านี้ จึงต้องมีมาตรการพร่องน้ำ

โดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ มี 2 แห่ง คือที่เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร และที่เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ ต้องเร่งระบายน้ำ ซึ่งพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการภายใน 5 วัน โดยก่อนระบายน้ำให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก่อน 3 วัน เพื่อให้ภาคประชาชนรับรู้ และจัดทำรายงานผลกระทบท้ายน้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และหากระดับน้ำอยู่ในะดับวิกฤต นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้สั่งการเอง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำโดยรวมขณะนี้อยู่ในเกณฑ์สีเหลืองหรือในระดับเตรียมการเท่านั้น

สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 08.00 น.จะมีการเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วม ที่กรมชลประทาน โดยศูนย์ดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิด มีเจ้าหน้าที่ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลชุดเดียวกัน และถึงแม้ปริมาณฝนในช่วงต้นเดือนสิงหาคมอาจจะไม่มาก

เมื่อถามว่ากรณีที่มีกระแสข่าวว่าปริมาณน้ำปีนี้มากกว่าปี 54 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปริมาณน้ำเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยรวมถือว่าสูงกว่า เฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพียงบางแห่งเท่านั้น เช่นในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ โดยในภาคกลางได้มีการเฝ้าระวังเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำ และเราไม่ประมาท ตามที่มีพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าพายุจะเข้ามาช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้

"ภาคกลางและภาคเหนือ สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นกังวล แต่ในภาคอีสานปริมาณน้ำในเขื่อนที่มากกว่าความจุร้อยเปอร์เซ็นต์ในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มีจำนวนมากกว่า 50 แห่ง ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด จึงต้องวิเคราะห์ความสมดุลในการรับน้ำและระบายน้ำ นอกจากนี้อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กกว่า 1,000 แห่ง ก็ได้มอบหมายให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปดูแลในเบื้องต้นก่อน หากจำเป็นต้องระบายน้ำฉุกเฉินจะต้องดำเนินการแห่งใดบ้าง ซึ่งยังมีเวลาเตรียมการ 1-2 สัปดาห์ ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดสถานการณ์ใด ณ วันนี้"

ขณะที่ สถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงมีการเร่งสูบน้ำระบายออก โดยที่จ.อุบลราชธานี ปริมาณน้ำลดลงแล้ว แต่ที่จ.เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ปริมาณน้ำมแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 70 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร เนื่องจากมวลน้ำอาจถูกปล่อยมาจากจีนและสปป.ลาว จึงประสานกับสองประเทศว่าจะมีปริมาณน้ำปล่อยลงมาจำนวนเท่าใด ซึ่งผู้ว่าฯได้รับทราบและแจ้งเตือนประชาชนแล้ว

สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง สำนักฯ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จ่อเปิดศูนย์เฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

related