ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาเชียงใหม่ ชี้แจงยังไม่ได้อนุมัติให้เอกชนเช่าที่วัดร้างกลางเมืองเชียงใหม่ ระบุหากวัดมีหลักฐานการรวมวัดถูกต้องตามกฎกระทรวงมาแสดงสามารถดำเนินการได้
นายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวชี้แจงกรณีการให้เอกชนเช่าที่ดินวัดต้นปุ๋น ซึ่งเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ข้างวัดล่ามช้าง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินกิจการโรงเรียนเพื่อการโรงแรม หลังเจ้าอาวาสวัดล่ามช้างและชาวบ้านในชุมชน ออกมาคัดค้าน
นายอุบลพันธ์ กล่าวว่าเดิมที่ดินวัดต้นปุ๋นมีนางประไพ ระเบ็ง เป็นผู้เช่าเพื่อเปิดโรงเรียนอนุศึกษา ต่อมานางประไพเสียชีวิต นางสาวปราณี ระเบ็ง ทายาทได้เข้ามาดำเนินกิจการต่อ กระทั่งโรงเรียนประสบปัญหาเด็กมีจำนวนลดลงจึงเลิกกิจการ ต่อมาบริษัท ดอยคำฮิลล์ไซต์ ดิเวบล๊อบเม้นท์ โดยนายเศวต เวียนทอง ได้รับมอบอำนาจโอนสิทธิ์การเช่าเพื่อก่อตั้งเป็นโรงเรียนเพื่อการโรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ เมื่อปี 2560
แต่ภายหลังบริษัทดังกล่าวได้แจ้งเปลี่ยนวัตถุประสงค์เพื่อก่อตั้งเป็นโรงเรียนการโรงแรม และประกอบกิจการโรงแรมแทน และยังได้ขอทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 30 ปี แต่เนื่องจากมีการร้องคัดค้านเกิดขึ้นเรื่องจึงถูกระงับไป
โดยสำนักงานพระพุทธสาสนาแห่งชาติ ยังไม่ได้อนุมัติการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ตามความต้องการของบริษัท ดังกล่าว เพราะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนาสมบัติกลางประจำปี และที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณา สำนักพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ต้องส่งเรื่องที่เอกชนยื่นขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าให้ส่วนกลางพิจารณา เพราะเอกชนมีสิทธิตามกฏมาย หากไม่ดำเนินการก็จะถูกข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ส่วนการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจการโรงแรมได้ ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ กฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.การโรงแรม โดยกระทรวงมหาดไทยดูแลอยู่ ซึ่งสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติจะนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
นายอุบลพันธ์ กล่าวต่อไปถึงกรณีที่เจ้าอาวาสวัดล่ามช้างอ้างว่า มีเอกสารหลักฐานการรวมวัดต้นปุ๋นเข้ากับวัดล่ามช้างนั้น หากวัดมีเอกสารดังกล่าวมาแสดงไม่ว่าเป็นสมัยใดก็มีผลตามกฎหมาย ปัจจุบันสำนักพุทธฯก็มีเอกสารอยู่แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่ามีการรวมวัดหรือไม่ หากมีและถูกต้องตามลำดับขั้นตอนของกฎกระทรวงก็พร้อมดำเนินการให้
ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีวัดร้างอยู่ในความดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 325 แห่ง ส่วนจำนวนผู้เช่าที่ดินวัดร้างมี 1,167 คน เก็บเงินค่าเช่าได้ปีละประมาณ 18 ล้านบาท โดยที่ดินวัดร้างที่มีผู้เช่าพื้นที่มากที่สุด คืออำเภอเมืองเชียงใหม่ มีจำนวน 71 วัด ผู้เช่ารวม 517 คน ซึ่งมีทั้งสถาบันการศึกษา เอกชนรวมทั้งธุรกิจโรงแรมที่เช่าที่ดินอยู่