svasdssvasds

เขื่อนแก่งกระจาน-ปราณบุรี ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

เขื่อนแก่งกระจาน-ปราณบุรี ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักที่ยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยมีเขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนปราณบุรีรวมอยู่ด้วย

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ มีจำนวน 4 แห่ง คือ

  • เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาณน้ำ 737 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 104%
  • เขื่อนน้ำอูน ปริมาณน้ำ 534 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น 103%
  • เขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำ 7,519 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็น 85%
  • เขื่อนปราณบุรี มีปริมาณน้ำ 319 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 82%

สำหรับเขื่อนแก่งกระจาน ในพื้นที่ท้ายน้ำยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ระดับน้ำท้ายเขื่อน น้ำที่ล้นทางระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมพื้นที่ริมสองฝั่งลำน้ำในบริเวณอำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และอำเภอบ้านแหลม ก่อนที่จะไหลลงทะเลต่อไป

เขื่อนปราณบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรีจะมีระดับค่อยๆ สูงขึ้น ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำจากอัตราการระบายที่เพิ่มขึ้น การบริหารจัดการน้ำ เพิ่มการระบายน้ำจนถึง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เขื่อนวชิราลงกรณ ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำไม่ล้นตลิ่ง แต่อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย

นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,320 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้

นอกจากนี้เขื่อนวชิราลงกรณ มีการรายงานแผนการระบายน้ำ ให้หน่วยงานราชการในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ทราบเป็นประจำทุกวันจันทร์ของสัปดาห์

ส่วนสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ยังคงเป็นปกติ แต่ในระยะนี้ให้นักท่องเที่ยว อยู่เฉพาะบนแพ ห้ามลงเล่นน้ำภายในแม่น้ำเด็ดขาด แต่สามารถลงเล่นได้เฉพาะริมตลิ่งที่ไม่ลึกเท่านั้น และผู้ปกครองจะต้องเฝ้าระวังบุตรหลานอย่างใกล้ชิด

related