"ทนายอนันต์ชัย" เผยเคยรับทำคดีให้ "พี่ชายบูม จิรัชพิสิษฐ์" จริงแต่ไม่เกี่ยวกับคดีฟอกเงิน ล่าสุด "พี่ชายบูม" พยายามติดต่อให้ ทนายเปี๊ยก รับดำเนินการคดีนี้ด้วยแต่เจ้าตัวลั่น ผมไม่รับทำคดีนี้
จากกรณีการเปิดเผยจดหมาย ของ นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายของ นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต นักแสดงหนุ่ม ที่ส่งถึง พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผู้บังคับการกองปราบ เพื่อขอทราบความคืบหน้าในการสอบสวนและแจ้งความประสงค์ขอให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดี ฟอกเงิน
ล่าสุดทีมข่าวออนไลน์ สปริงนิวส์ ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ผู้ลงนามในหนังสือฉบับดังกล่าว ได้รับคำชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวที่ดำเนินการออกให้เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายปริญญา เคยมาติดต่อให้ตัวเอง ว่าความให้ในคดีที่ นายอาร์นี โอตาวา ชาริมา ร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีฉ้อโกง ซึ่งคดีนี้อยู่ที่ศาลแขวงดุสิต
โดยในตอนนั้น นายปริญญา ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง เป็นเพียงบุคคลแนะนำเท่านั้น และเมื่อตรวจสอบหลักฐาน เอกสารสัญญาต่างๆ ก็ไม่ปรากฎชื่อ นายปริญญา จึงได้รับทำคดีให้
หลังจากนั้น นายปริญญา ก็ได้มีการร้องขอให้ทีมทนายความของนายอนันต์ชัย ช่วยทำหนังสือชี้แจงฉบับที่ปรากฎเป็นข่าว ถึง พ.ต.อ.ชาคริต ว่าถ้าจะเรียกตัวเพื่อเข้าไปให้ถ้อยคำเกี่ยวกับคดี ฟอกเงิน นายปริญญา ก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
กระทั่งวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม นักแสดงหนุ่ม ซึ่งเป็นน้องชายนายปริญญา จึงทำให้ทราบความกระจ่างเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่นายบูม ได้รับจากกลุ่มของนายปริญญา ก่อนโอนให้พี่ชาย จึงกลายเป็นว่าข้อมูล ที่ ทนายอนันต์ชัย เคยได้รับจากนายปริญญา ก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริง จึงไม่รับดำเนินการทำคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินดังกล่าวต่อ
ซึ่งปัจจุบัน นายปริญญา ยังได้พยายามติดต่อผ่านทางไลน์ขอให้ นายอนันต์ชัย ให้รับทำคดีนี้ให้ด้วย แต่นายอนันต์ชัย ยืนยัน "ผมไม่รับทำคดีนี้"
ส่วนคดีฉ้อโกงที่รับมาก่อนหน้านี้ก็ยังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป