ตำรวจคุมตัวเสี่ยอ้วน ผู้บงการฆ่า 2 ศพเขาชีจรรย์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้านผบ.ตร. ระบุสาเหตุเกิดจากแค้นรัก เตรียมคุมตัวฝากขังศาลวันนี้
ภาพบรรยากาศ ขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามความรู้สึกของนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน เจ้าของบาร์ในจังหวัดภูเก็ต ผู้ต้องหาบงการฆ่านางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ และนายอนันตชัย จริตรัมย์ เสียชีวิตกลางลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเสี่ยอ้วน ถูกจับกุมบริเวณจังหวัดเปรยเวง ประเทศกัมพูชา ขณะพยายามหลบหนีเข้าเวียดนาม และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยเสี่ยอ้วน พูดเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า "เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น" จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ที่อยู่ในชุดสวมเสื้อเกราะกันกระสุน และหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 5 จุด ซึ่งจุดสำคัญที่สุด อยู่ที่บริเวณลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ที่เสี่ยอ้วน และพวกอีก 5 คน สังหารเหยื่อทั้ง 2 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมกว่า 100 นาย ทั้งนี้ช่วงหนึ่ง เสี่ยอ้วนขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก้มลงกราบขอขมา เบื้องหน้าองค์พระปฏิมากร พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ซึ่งระหว่างก่อเหตุ เจ้าตัวไม่รู้ว่า บริเวณนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือเป็นอย่างมาก และคิดว่าเป็นแค่รูปแกะสลักธรรมดาเท่านั้น
ขณะที่ก่อนหน้าคุมตัวเสี่ยอ้วน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาที โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยภายหลังว่า คดีนี้เสี่ยอ้วน รับสารภาพทุกอย่างว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และมีการทำเป็นขบวนการ แต่เปิดเผยรายละเอียดการวางแผนไม่ได้ เพราะอยู่ในสำนวน ประกอบกับเสี่ยอ้วน ยังให้การขัดแย้งกับผู้ต้องหารายอื่น ซึ่งต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้เสี่ยอ้วน ระบุว่า ช่วงหลบหนีอยู่ที่กัมพูชา ไม่ได้สะดวกสบาย แต่ได้ดูข่าวทางโซเชียลมีเดียบ้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ตนเองให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้มีอยู่ 2 ทางให้เลือก คือทางตันและทางตาย ทำให้รู้สึกกลัว ขณะที่ช่วงลั่นไกปืนนั้น ยิงไม่ออก 2-3 นั้น แต่ฝืนยิงจนทั้ง 2 คน ตายต่อหน้า ส่วนสาเหตุสังหาร เพราะแค้นที่ทั้ง 2 คน แอบมีสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน ทำให้เกิดความแค้นนั่นเอง