ถอดรหัส 3 พรรคการเมืองใหญ่ ใครคือหัวหน้าพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง

หลัง”คลายล็อค”พรรคการเมือง ที่กำลังลุ้นว่า จะเริ่มมีผลให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมสำคัญเบื้องต้นได้เมื่อใด แต่กูรูการเมืองต่างฟันธงไว้ตรงกันว่า น่าจะ ราวกลางเดือนกันยายนนี้ หลังกฎหมายลูก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา

การ”คลายล็อค”ของ คสช. ยังจะมีผลไปถึงการบริหารจัดการในพรรคการเมือง ทั้งใหม่และเก่า เพื่อให้ได้ทำและทันตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ป. แต่ที่อาจสำคัญยิ่งกว่านั้น คือการเปิดโฉมหน้าค่าตาตัวจริงของผู้บริหารแต่ละพรรค สำหรับนำธงสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.

โดยเฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ประชาธิปัตย์ กับ เพื่อไทย ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน กับอีก 1 พรรคใหม่ ที่ตั้งขึ้นหนุน”บิ๊กตู่”เต็มตัว คือพรรคพลังประชารัฐ

กรณีพลังประชารัฐ ได้เตรียมประชุมคณะผู้ก่อตั้งพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในเดือนกันยายนนี้ นั่นหมายถึงอีกไม่กี่วันจะได้เห็นหน้าค่าตาและโปรไฟล์ของพรรคนี้ แต่ก็ยังต้องลุ้นด้วยว่า จะเป็น”ชุดตัวจริง”หรือ”ชั่วคราว”เพื่อทำหน้าที่ช่วงระยะแรกๆ

หลังจากนายอุตตม เสาวนายน รัฐมนตรีอุตสาหกรรม กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ คนใกล้ชิด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้ออกโรงปฏิเสธข่าวจะลาออกจาก ครม.เพื่อทำหน้าที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคตามลำดับ

[caption id="attachment_339750" align="aligncenter" width="696"] อุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม[/caption]

แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าตัวจริงตัวปลอม พลังประชารัฐต้องคัดสรรคนให้ดูดีและลงตัวที่สุด เพราะถึงแม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนก่อตั้งพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ชื่อพรรคติดลมบนไปแล้ว ดังที่นิด้าโพล์สำรวจความเห็นประชาชนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ(25.1%)อยู่ในอันดับ 2 ที่ประชาชนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุดและเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล แพ้เพียงพรรคเพื่อไทย(32.1%) ที่เป็นพรรคเก่าและตั้งมานานกว่ามาก

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีกลุ่มคลื่นใต้น้ำเล็กๆ ที่แอบจุดกระแส คาดหวังจะให้มีการเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารพรรคใหม่ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลและ คสช.ในหลายเรื่อง กระทั่งเกรงกันว่าจะตกขบวน ไม่ได้ร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

แต่ความเป็นไปได้มีค่อนข้างน้อย ตราบใดที่นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และถือเป็นนักการเมืองอาวุโสที่เปี่ยมบารมีตัวจริงเสียงจริง ยังยืนกรานสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ต่อไป

ต้องไม่ลืมว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายชวนกับรัฐบาล”บิ๊กตู่”ยังมีมาต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการกล่าวชื่นชมรัฐบาลชุดนี้ ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมถนนในภาคใต้ไปจนสุดชายแดน หลังจากถูกตัดทิ้งไปในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ส่วนพรรคที่อยู่ในความสนใจของผู้คนมากที่สุด คือพรรคเพื่อไทย เพราะถึงขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นคนชูธงนำพาพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง หลังจากมีเพียงข่าววงใน ที่พลิกกลับไปกลับมา

เริ่มจาก”หญิงหน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่มีข่าวตั้งแต่ต้นว่า จะได้เป็นผู้นำพรรคคนใหม่ ด้วยปัจจัยเป็นนักการเมืองภาพลักษณ์ดี เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนทั่วไป ทั้งยังมีคอนเน็คชั่นที่ดีกับคนในกองทัพ แต่หลังจากสะดุดขาตัวเองจากขบวนแห่ดอกดาวเรืองที่วัดลาดปลาเค้าเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กอร์ปกับแรงต้านจากกลุ่มคนในตระกูลชินวัตร ทำให้ความเป็น”ตัวต็ง”ของหญิงหน่อย ลดถอยลงเป็นลำดับ

[caption id="attachment_339324" align="aligncenter" width="450"] สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์[/caption]

แม้ใน นิด้าโพล์ คะแนนนิยมจะอยู่อันดับ 2 รองจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะที่ในช่วงหลังๆ มีข่าวโฟกัสไปยังคนรุ่นใหม่ ทายาทในตระกูล ทั้ง รศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายคนโตของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อีกคนคือนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คือเป็น”ลูกเขย”นายทักษิณ ที่ปัจจุบัน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แต่สุดท้าย ได้รับการปฏิเสธจากทั้งคนใกล้ชิดและเจ้าตัวแล้ว ว่าไม่เป็นความจริงซ้ำรอยกับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แป๋ว- มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล ผู้บริหาร บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK ก็เคยตกเป็นข่าวจะเข้ามานำทัพพรรคเพื่อไทยแทนน้องสาว ปู-ยิ่งลักษณ์ แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธ

[caption id="attachment_339320" align="aligncenter" width="1356"] ผศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ (ภาพจาก : มหาวิทยาลัยมหิดล)[/caption]

[caption id="attachment_339321" align="aligncenter" width="584"] ทักษิณ ชินวัตร และ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์[/caption]

[caption id="attachment_339323" align="aligncenter" width="1280"] มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล[/caption]

เพราะในความเป็นจริง คนในตระกูลชินวัตรที่เข้าสู่เวทีการเมืองเต็มตัว ล้วนแล้วแต่สะบักสะบอมบอบช้ำโดยทั่วหน้า โดยเฉพาะ”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”ต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้น การจะให้ทายาทรุ่นต่อๆไปของตระกูล กระโจนลงสู่เวทีการเมือง จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ในช่วงเวลาอันใกล้นี้

ทางเลือกของเพื่อไทยขณะนี้ จึงเหลือเพียงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยได้เข้าทำเนียบรัฐบาลเลยอยู่หนึ่งเดียว ข้อเด่นของเขา นอกจากเป็นคนในกลุ่มตระกูลชินวัตรแล้ว ยังมีบุคคลิกสุขุม ไม่พูดมาก ตามแบบฉบับผู้พิพากษา และยังเป็นผู้อาวุโสในพรรคที่ทุกกลุ่มให้ความเคารพนับถือ ขณะที่เจ้าตัวเอง ยังไม่ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ ด้วยปัจจัยแรงผลักสำคัญอย่างหนึ่ง คือเพื่อต้องการพิสูจน์ตัวเองบนตำแหน่งนายกฯอีกสักครั้ง

[caption id="attachment_339322" align="aligncenter" width="990"] สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี[/caption]

หลังจากที่พ้นมลทิน เรื่องคำสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งมีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้องเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560

อย่างไรก็ตาม ในวิถีทางการเมือง อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ นายสมชาย ซึ่งเป็น”เต็งจ๋า”ผู้นำคนใหม่ของเพื่อไทยขณะนี้ อาจพลาดหวังก็ได้ หากสถานการณ์การเมืองและเรื่องในพรรคเพื่อไทยเกิดพลิกผัน