“อัศวเหม”ซุ่ม...ทวงคืน ส.ส.ปากน้ำ

แม้เมืองปากน้ำ-สมุทรปราการ นับตั้งแต่เลือกตั้งปี 2544 จนถึงครั้งหลังสุด 2554 พรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย แทบจะปิดประตูเมืองกวาดส.ส.ยกจังหวัดทุกครั้งก็ว่าได้ แต่ในอดีตก่อนหน้านั้น พรรคที่ครองพื้นที่ในเมืองปากน้ำ เป็นพรรคของตระกูลอัศวเหม ที่มีนายวัฒนา อัศวเหม เป็นประมุข

ความยิ่งใหญ่สมัยนั้น ไม่ต่างจากนายบรรหาร ศิลปอาชา แห่งจังหวัดสุพรรณบุรี นายวัฒนาเป็นอดีต ส.ส.สมุทรปราการ 11 สมัย เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เป็นผู้เปี่ยมบารมีกระทั่งได้ฉายา”เจ้าพ่อกรรมกร” นักการเมืองคู่ใจของนายวัฒนา มีทั้ง พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ อดีตรองนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายมั่น พัธโนทัย อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง รวมทั้งกลุ่ม ส.ส.ปากน้ำ ที่นำโดยนายสมพร อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ น้องชาย และนายพูนผล อัศวเหม ลูกชาย

รวมทั้งเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มงูเห่า 13 คนอันลือลั่นในประวัติหน้าหนึ่งสำหรับการเมืองไทย เมื่อผละจากพรรคประชากรไทย ของนายสมัคร สุนทรเวช หันไปสนับสนุนนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปลายปี 2540 หลังการลาออกจากตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ ซึ่งเจอกับแรงกดดันจากวิกฤติต้มยำกุ้ง และกลุ่มมวลชนนอกสภาในขณะนั้น

แต่หลังจากนายวัฒนา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน และต่อมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี และให้ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวจำเลย มารับโทษ นายวัฒนาก็ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นอีกเลย ท่ามกลางกระแสข่าวหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ

หลังจากนั้น ฐานเสียงที่เข้มแข็งมาตลอดของนายวัฒนาและ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ก็โดนเจาะทะลุทลวงชนิดคาดไม่ถึงตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ปี 2544 แม้ในระดับท้องถิ่น ตระกูลอัศวเหมจะยังรักษาไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ในเวทีระดับชาติ ไม่ใครแจ้งเกิดได้อีกเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในทายาทของนายวัฒนา นายพูนผล อัศวเหม อดีต ส.ส. และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรปราการขณะนั้น เกิดอาการวูบในห้องน้ำ ล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต เมื่อปี 2558 ปีเดียวกันกับที่ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่งจำคุก นายชนม์สวัสดิ์ 1ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อปี 2542 และเป็นปีเดียวกับที่นายชนม์สวัสดิ์ โดนคำสั่งที่ 19/2558 ตามมาตรา 44 ให้ยุติการทำหน้าที่นายก อบจ.สมุทรปราการ

เจอมรสุมโหมกระหน่ำใส่หลายลูก บางคนคิดว่าอาจถึงเวลา”ปิดฉาก”บทบาทตระกูลดังบนเวทีการเมือง โดยเฉพาะระดับชาติ แต่ถึงขณะนี้ คงต้องคิดใหม่ เมื่อข่าววงในยืนยันว่า “อัศวเหม”ยังไม่ถอดใจ ยกธงขาวยอมแพ้

นายชนม์สวัสดิ์ มีตำแหน่งใหม่รองรับ คือประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะขับเคลื่อนงานในหอการค้า ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือผลักดันโครงการรถไฟฟ้ารางเดียวโมโนเรล สายสุวรรณภูมิ -แพรกษา-สุวรรณภูมิ รองรับการขยายตัวของเมือง

ในอีกด้านหนึ่ง ได้ซุ่มเตรียมพร้อมจัดทัพรับการเลือกตั้ง ทั้งในระดับท้องถิ่น ซึ่งต้องเลือกตั้งใหม่หมด ตั้งแต่ อบต.-สท. และ อบจ. กับระดับชาติ ที่หนนี้ ยังต้องเจอกับคู่แข่งหน้าเดิมพรรคเพื่อไทย ที่คงหวังจะเหมายกจังหวัดให้สำเร็จเสียที

ข่าววงในแจ้งว่า ชนม์สวัสดิ์ ไม่เลือกตั้งพรรคระดับจังหวัดเองเหมือนพรรคพลังชล และไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรคมาตุภูมิ ที่เปลี่ยนชื่อมาจากพรรคราษฎรที่นายวัฒนาเคยเป็นผู้ก่อตั้งในอดีต แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะส่งทีมผู้สมัครลงในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในการเลือกตั้งปี 54 มี เรวดี รัศมิทัต เป็น ส.ส.หนึ่งเดียวที่สอดแทรกอยู่ท่ามกลาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย

ว่ากันว่า นายชนม์สวัสดิ์ มักเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ ฐานไข่แดงสำคัญของพรรคภูมิใจไทยบ่อยๆ นัยว่าไปทั้งซ้อมทั้งแข่งรถ อันเป็นกีฬาที่เขาโปรดปรานและที่นั่น อาจได้พบปะกับใครบางคนบางกลุ่ม ในฐานะที่ชื่นชอบโลกความเร็วเช่นเดียวกัน

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ สะท้านไปทั้งวงการการเมืองและบันเทิง ฝ่ายชายคือ‘เป๊ก เศรณี’ หนุ่มทายาทธุรกิจหมื่นล้าน ฝ่ายหญิงคือ ‘เพลง” ชนม์ทิดา ลูกสาวคนสวยของชนม์สวัสดิ์ และ”ตู่”นันทิดา

สำหรับหนุ่มเป๊ก ไม่ใช่ใครที่ไหน นามสกุล ชาญวีรกูล ลูกชายคนเล็กของ”เสี่ยหนู”อนุทิน และ สนองนุช ชาญวีรกูล นั่นเอง

ถึง”น้องเพลง”ก็ถึง”บางอ้อ”!!