svasdssvasds

ม่านการเมือง : พรรคหนุน”บิ๊กตู่”จะเจาะตรงไหน?

ม่านการเมือง : พรรคหนุน”บิ๊กตู่”จะเจาะตรงไหน?

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

หลังคสช.”คลายล็อคก”ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมการเมืองหลายอย่างได้ ยกเว้นยังห้ามหาเสียงเลือกตั้ง แต่อุปสรรคสำคัญของพรรคการเมือง ยุคไทยแลนด์ 4.0 ไม่ได้อยู่ที่หาสมาชิกพรรค หาทุนประเดิมพรรค หรือเลือกกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น แต่อยู่ที่จะหาพื้นที่เพื่อเจาะฐานคะแนนเสียงได้อย่างไร และตรงไหน เพื่อให้พรรคได้คะแนนจากประชาชนแบบหวังผลได้

โดยเฉพาะพรรคการเมืองเกิดใหม่ ที่หวังจะมีบทบาทสำคัญในทางการเมือง หรือเป็น”ตัวช่วย”สานฝันให้กับใครบางคน อย่าง”บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากการตัดสินใจที่ประกาศชัดหลังพ.ร.ป.2 ฉบับสุดท้าย ลงในราชกิจจานุเบกษา ว่า..จะไปต่อ

ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะการเมืองไทยในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ภายใต้แนวนโนบายประชานิยมที่พรรคการเมืองส่วนมากโหมกระหน่ำในการหาเสียง และนำมาใช้เมื่อได้เป็นรัฐบาล เมื่อรวมเข้ากับการโปรโมทโฆษณาชวนเชื่อ คนทุกกลุ่มตั้งแต่ล่างสุดถึงบนสุดต่างได้รับอานิสงส์ที่สัมผัสได้ ก่อให้เกิดฐานเสียงที่แน่นหนา กระทั่งแทบจะไม่มีที่ว่างให้คนอื่นและพรรคอื่น

ม่านการเมือง : พรรคหนุน”บิ๊กตู่”จะเจาะตรงไหน?

พรรคเพื่อไทยยึดฐานเสียงทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและภาคตะวันออกบางส่วน และกรุงเทพฯบางส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ฐานเสียงแน่นหนาในภาคใต้ ภาคกลางบางส่วนรวมทั้ง 4 จังหวัดภาคตะวันออก และกรุงเทพฯบางส่วน พรรคชาติไทยพัฒนา มีฐานที่มั่นสำคัญในภาคกลาง ขณะที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังชล ยึดฐานที่มั่นในระดับจังหวัดเป็นหลัก เป็นการยึดติดฐานที่มั่นแบบติดหนึ่บ แม้จะมีปรากกฎการณ์”พลังดูด”ในกลุ่มอดีตส.ส.บ้าง แต่ในพื้นที่เลือกตั้ง ยังไม่มีข่าวคราวว่า พรรคใดกลุ่มใด”ดูด”สำเร็จในระดับจังหวัด จนสวิงเปลี่ยนข้างเปลี่ยนพรรคไปจากเดิม

ม่านการเมือง : พรรคหนุน”บิ๊กตู่”จะเจาะตรงไหน?

แม้แต่กลุ่มสามมิตร ซึ่งสร้างความฮือฮาในช่วงแรกกับอดีตส.ส.จังหวัดเลย แต่หลังจากนั้น ก็ไม่มีอดีตส.ส.เกรดเอ.เพิ่มเข้ามาในโพยรายชื่อ จึงทำได้เพียงขี่ม้าเลียบค่าย กับไปคว้านักการเมืองระดับท้องถิ่นมาโชว์ให้เกาะอยู่ในกระแสข่าว

พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งใน”นิด้าโพล์”เดือนพฤษภาคม 61 ที่ผ่านมา ติดในอันดับ 2 พรรคการเมืองที่คนอยากให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุดและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ปรากฏชัดว่าใครจะเข้ามานำธงสู้ศึกเลือกตั้ง

หลังจากทั้งอุตตม เสาวนายน รัฐมนตรีอุตสาหกรรม และสนธิรัตน์ สินธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ต่างปฏิเสธข่าวลาออกจากครม.เพื่อไปขับเคลื่อนพรรค ขณะที่ 2 ส.จากกลุ่มสามมิตร สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็แย้มไต๋จะเป็นเพียงที่ปรึกษา

ท้ายที่สุด หากผู้นำไม่โดดเด่น มีคะแนนนิยมในตัวเองเพียงพอ หรือเป็นเพียง”บิ๊กเนม”ระดับจังหวัด คำถามสำคัญที่ตามมา คงหนีไม่พ้น จะไปปักธงพรรคในสนามเลือกตั้งไหน จึงจะสามารถรวบรวมส.ส.จนมีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ตามโพล์ รองจากพรรคเพื่อไทยที่อยู่คนละขั้ว เพื่อสร้างความชอบธรรมในการแข่งจัดตั้งรัฐบาลได้

 

พรรคประชาชนปฏิรูป ของไพบูลย์ นิติตะวัน แม้จะเน้นการเมืองแบบใหม่ ไม่เน้นรับสมาชิกที่เป็นอดีตส.ส. แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า ฐานเสียงหลักของพรรคจะอยู่ที่ไหน จะเจาะฐานเสียงคนอื่นได้อย่างไร

ครั้นจะมุ่งเน้นคะแนนบัญชีรายชื่อ ก็อาจไม่ง่าย เพราะระบบจัดสรรปันส่วนผสมซึ่งจะนำมาใช้เป็นครั้งแรกในโลก ทุกพรรคการเมืองก็จะเน้นส่งผู้สมัครส.ส.ลงเขตเลือกตั้งให้มากที่สุด นำไปสู่การแข่งขันแย่งชิงคะแนนกันเอง แม้แต่ในกลุ่มพรรคที่อาจเป็นพันธมิตรกันก็ตาม

เช่นเดียวกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่(อดีต)กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง หากจะใช้สุราษฎร์ธานี ถิ่นเกิดที่เขาเป็นอดีตส.ส.มาหลายสมัย เป็นฐานที่มั่น และอาศัยคะแนนนิยมในตัวธานี เทือกสุบรรณ และเชน เทือกสุบรรณ เป็นตัวช่วย ก็ยังไม่แน่ชัดว่า จะประสบความสำเร็จแค่ไหน ในเมื่อประชากรภาคใต้ เลือกประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจอันดับ 1 มายาวนาน

ม่านการเมือง : พรรคหนุน”บิ๊กตู่”จะเจาะตรงไหน?

ดังที่นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ในสุราษฎร์ฯ ค่อนข้างแน่น เพราะกำนันสุเทพทำพรรคไว้แน่นมาก และเคยบอกว่าออกจากพรรคไปแล้ว ประชาชนก็ไม่ต้องออก(จากพรรค)ตามไป ที่สุดแล้ว คนสุราษฎร์ธานี ยังยึดติดกับพรรค ทำให้ประชาธิปัตย์ไม่น่าจะแพ้

หากเป็นไปตามการวิเคราะห์นี้ จังหวัดอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้ ก็คงยากลำบากเป็นเท่าตัว แม้แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า อดีตส.ส.บางคนสมัครใจจะอยู่ช่วยกำนันสุเทพ แต่ต้องไม่ลืมว่า ยังมีพรรคประชาชาติของกลุ่มวาดะห์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่อดีตส.ส.ยังเหนียวแน่นด้านฐานคะแนน

พรรครวมพลังประชาชาติไทย จึงต้องอาศัยชูนโยบายหนุน”บิ๊กตู่”เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เป็นจุดขาย ร่วมกับคะแนนนิยมส่วนตัวของกำนันสุเทพ / คะแนนนิยมส่วนตัวผู้สมัคร อย่างนายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ จันทบุรี หรือคะแนนนิยมผู้สมัครในเขตอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังต้องหวังสะสมคะแนนจากผู้สมัครเขต สำหรับคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยให้น้ำหนักไปที่สนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆฐานเสียงของแกนนำกปปส.ในพื้นที่ที่เคยร่วมงานกัน เมื่อครั้งขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

รวมทั้งบางจังหวัดในภาคอีสาน ที่กำนันสุเทพและแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่จะได้เป็นเนื้อเป็นหนังแค่ไหน เกิน 25 ที่นั่งเพื่อจะมีสิทธิ์เสนอ 3 รายชื่อ ผู้มีความเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ต้องลุ้นกันเหนื่อยต่อไป

related