“อัจฉริยะ “สาวไส้ขบวนการ”ยี่ปั๊วคอกวัว” เบื้องหลังพีท หวย90ล้าน โกหกสังคม ทำคนหลงเชื่อ ชี้ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ซื้อขายล็อตเตอรี่เลขชุด หลังสร้างสถานการณ์โกหก ทำคนแห่ซื้อสลากกินแบ่งฯจนไม่พอขาย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งเป็นผู้เปิดโปงเรื่องมีการโกหกและฉ้อโกง กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ระบุว่ามีผู้ถูกรางวัล 90 ล้านบาทว่า เป็นการกุเรื่อง เพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด โดยมีการวางแผนเป็นขั้นตอน ไม่ใช่การไม่ตั้งใจทำ หรือไม่ต้ังใจปล่อยให้คนอื่นเอาเรื่องมาเผยแพร่ในโซเชียล ที่ชมรมฯออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นตั้งแต่ออกมาพูดทางแอปพลิเคชั่นไลน์แล้วว่า เซอร์ไพร์ เป็นเรื่องผิดปกติ ที่แสดงภาพล็อตเตอรี่มาโชว์ เห็นเลข 7 มีการตัดแปะสี่เหลี่ยมเล็กๆ ลายน้ำเส้นไม่เท่ากัน แม้นายพีท ไม่สารภาพ เราก็มีหลักฐานเพราะมีพลเมืองดีส่งมาให้
นายอัจฉริยะ ตอบคำถามว่าได้พูดคุยกับนายพีท ครั้งหนึ่งเมื่อไปออกรายการข่าวช่อง 3 ซึ่งเขาก็ร้องไห้เพราะถูกกดดัน คนเราพร้อมให้อภัย ถ้าสารภาพโดยไม่โยนความผิดไปว่ามีคนเอาไปปล่อยในโซเชียล ทั้งที่ตัวเองเป็นคนทำ ตนอยากให้เขาสำนึกจริงๆ ไม่ใช่จนมุมด้วยหลักฐาน คนเราผิดแล้วต้องสำนึก สังคมถึงให้อภัย ไม่เช่นนั้นจะเจอคดีละ 5 ปีในฐานฉ้อโกงประชาชน ทั้งผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่นำข้อมูลเป็นเท็จเผยแพร่
“เรื่องนี้มีตัวการใหญ่ เป็นขบวนการกุเรื่องอยู่เบื้องหลังหวย 90 ล้าน มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ไม่ใช่ไม่ตั้งใจ เขาหวังมาทำตลาด มียี่ปั๊วโทรมาขู่ผม เมื่อวันที่ 7 กันยายน ขู่ว่าทำเรื่องนี้กระทบกับโควต้าล็อตเตอรี่ ถ้าขยายความว่า พีททำแบบนี้ จะแฉถึงขบวนการยี่ปั๊วแถวคอกวัวได้ ตำรวจต้องสอบไปให้ถึง”
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยงค์ รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้สังคม ในการใช้โซเชียล ที่มีเนื้อหา การกระทำต่างๆที่แพร่ไปรวดเร็ว ดังนั้น มีกฎกติการะบุไว้ว่า ต้องไม่ทำเลยเถิด กรณีนี้เหมือนปัญหาการไปพูดเรื่องระเบิดบนเครื่องบินนั่นเอง เรื่องนี้ ตำรวจต้องลงไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน และเมื่อมีผู้เสียหาย โดยเฉพาะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อาจทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในสลากกินแบ่งฯ ที่ประชาชนจะไม่ซื้อสลากฯ หากมีการตัดต่อ ก็เกิดความผิดเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร ไปเผยแพร่ในโซเชียล ก็ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นคดีอาญาทั้งสิ้น การไปหลอกลวงก็ยังมีคดีฉ้อโกง ย้อนดีกรณีสมพงษ์ แท็กซี่พลเมืองดี ไปกุเรื่องว่าได้เงินรางวัล ที่มีผู้หลงเชื่อให้เงินมา ศาลตัดสินก็ติดคุก และยังต้องให้คืนเงินอีกด้วย
นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า กรณีนายพีท ทำให้เกิดประโยชน์กิจการดีขึ้น มีคนหลงเชื่อ ตร.สอบแล้วว่าใครได้ประโยชน์ใครหลงเชื่อขบวนการทำอย่างไรใครเสียหายนำไปสู่การตั้งคดีจะฟ้องร้องหรือไม่ต้องรอผลสอบสวนของตำรวจมีใครเป็นเจ้าทุกข์บ้างเป็นบทเรียนให้สังคมในการต้องไม่ทำอะไรเลยเถิด
“เรื่องนี้ กองสลากฯ จะถูกลดความน่าเชื่อถือของสำนักงานสลากฯ ที่เป็นความหวังของประชาชน สลากฯถูกออกแบบไม่ให้ปลอมกันได้ง่ายๆ มีระบบตรวจสอบทุกขั้นตอน ส่วนความเสียหายขั้นต่อไป มีใครหลงเชื่อ เสียหายอย่างไร ก็ไปแจ้งความดำเนินคดีได้”