ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา โดยหน่วยระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานส่วนหนึ่งจาก สสส. มีการศึกษาภาระโรคที่เกิดจากการดื่มสุราใน 195 ประเทศ โดยพบว่าการดื่มสุราเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ มากกว่า 200 ชนิด
ความเสี่ยงนี้ขึ้นกับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป และรูปแบบของการดื่ม บวกกับความเสี่ยงสัมพัทธ์การเกิดโรค ซึ่งหมายถึงปัญหาสุขภาพโดยรวมเพื่อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดื่มสุราในปริมาณมากขึ้น การไม่ดื่มเลยหรือดื่มน้อยกว่า 1 ดื่มมาตรฐาน เท่ากับเบียร์หนึ่งกระป๋อง หรือไวน์ 100 ซีซี หรือเหล้าหนึ่งเป๊ก 30 ซีซี ต่อวันจะมีความเสี่ยงต่ำที่สุดในการเกิดโรคหรือปัญหาสุขภาพ
ในผลวิจัยเรื่อง Alcohol use burden for 195 countries and territories โดยกลุ่มนักวิชาการและมีการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข The Lancet สรุปเนื้อหาสำคัญส่วนหนึ่งได้ว่า ประชากรโลก 2.8 ล้านคนตายจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่อปี หรือคิดเป็นการตายร้อยละ 2.2 ในผู้หญิง ส่วนผู้ชายร้อยละ 6.8 ปรับจำนวนตายด้วยอายุ
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 7 ของการสูยเสียปีสุขภาวะทั่วโลก โดยร้อยละ 1.6 ในผู้หญิง และร้อยละ 6 ในผู้ชาย ประชากรกลุ่มอายุ 15-49 ปี ก่อความสูญเสียจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด สาเหตุการตายที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ 3 อันดับแรกคือวัณโรคอุบัติเหตุจราจรและการทำร้ายตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยดังกล่าวสรุปได้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพที่สำคัญ 1 ใน 10 ของคนอายุ 15 -49 ปีตายจากสาเหตุนี้ อีกทั้งระบุด้วยว่า ไม่มีปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ใดที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพราะทำให้เกิดการสูญเสียสุขภาวะหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทุกช่วงอายุ
ทั้งนี้ อาการป่วยของโอ วรุฒ วรธรรม อดีตพระเอกดัง ซึ่งมีอาการวูบหมอสติ จนแพทย์ต้องปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลนครพิงค์ สาเหตุสำคัญก็มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหน้านี้ จนทำให้สุขภาพทรุดโทรม และป่วยอาการเรื้อรังร่วมด้วย
“เหล้า...ทำพิษ”
สมอง : แอลกอฮอล์ทำให้เซลล์สมองขยายตัวขึ้น เกิดสมองบวม ส่งผลให้เซลล์ลีบเหี่ยว เสื่อมและตาย
หัวใจ : กระตุ้นให้สูบฉีดเลือดเร็วจึ้น กล้ามเนื้อหัวใจจะเริ่มหนาขึ้น เพราะทำงานหนัก กลายเป็นโรคหัวใจโตและวายในที่สุด
ช่องปากและลำคอ : เกิดระคายเคืองที่เรียกกันว่า เหล้าบาดคอ
ผิวหนังและหลอดเลือด : ขยายตัวทำให้หน้าและตัวแดง บางคนเส้นเลือดหดตัว ทำให้หน้าซีด ซึ่งอันตรายมากกว่า
กระเพาะอาหาร : กระตุ้นน้ำย่อย มีโอกาสเยื่อบุในกระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลัน
ตับ : เข้าทำลายเซลล์ตับ ทำให้ไขมันเข้าไปแทนที่และคั่งอยู่ในตัว เมื่อเซลล์ตับตายลงถึงระดับหนึ่ง จะมีการสร้างพังผือที่บริเวณนั้น ทำให้เป็นโรคตับแข็งนั่นเอง