“เสธอ้าย” เผย สนามม้านางเลิ้ง หมดยุครุ่งเรือง คนดูน้อย ถึงไม่ปิดก็ไปต่อไม่ได้

สนามม้านางเลิ้งหลังสิ้นสุดการแข่งขันนัดแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ต้องรื้อสิ่งที่เรียกว่า “สังหาริมทรัพย์” หรือทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ออกไป  เพราะจะต้องส่งคืนที่ให้กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 พนักงานหลายคนก็ยังคงมาทำงานเพื่อบันทึกที่ทำงานที่พวกเขาอยู่มากว่าครึ่งชีวิต เอาไว้ในความทรงจำให้ได้นานที่สุด ทุกคนจะได้รับเงินชดเชยรวมแล้ว 6 เดือน

พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธอ้าย รองประธานอำนวยการราชตฤณมัยสมาคม พาเดินดูบรรยากาศภายในเงียบเหงาและว่างเปล่า เสธอ้ายเล่าให้ฟังว่าในยุครุ่งเรืองเมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อน อัฒจรรย์ จะหนาแน่นไปด้วยผู้คน ไม่มีที่แม้แต่จะยืน เพราะอัฒจรรย์ความยาวกว่า 200 เมตร สามารถจุคนได้ 25,000 คน แต่ก่อนปิดทำการนัดที่คนแน่นที่สุดเหลือเพียง 5,000 คน ยอดเงินแทงม้าสูงถึง 150 ล้านบาทต่อการแข่งขันหนึ่งครั้ง ตัวรายได้ที่ลดน้อยถอยลงตามจำนวนคนเข้าชมที่น้อยลง ซึ่งปัจจุบันถึงไม่ปิดก็ไปไม่รอด เพราะนอกเหนือจากภาระหนี้สินที่เกิดจากการค้างจ่ายภาษีแล้ว ความนิยมในการชมกีฬาแข่งม้าและพนันขันต่อลดลง เนื่องจากโลกยุคใหม่ มีการพนันออนไลน์ และ มีกีฬารูปแบบอื่นๆ เข้ามาแทนที่

สำหรับภาระหนี้สินของสนามม้านางเลิ้งมีมากถึง 1,500 ล้านบาท เกิดจากภาระภาษีและ ค่าใช้จ่ายที่เริ่มไม่ครอบคลุมรายได้ ตัวเลขที่นักพนันมาเสี่ยงโชคเหลือนัดละ 40 ล้านบาท ต้องจ่ายเป็นเงินรางวัล 30 ล้านบาทและที่เหลืออีก 10 ล้านบาทเป็นเงินค่าต๋งให้สนามม้า ในจำนวน 10 ล้านบาท เป็นค่าภาษีมากกว่า 5 ล้านบาท ยังไม่รวม ค่าใช้จ่ายให้พนักงานขายตั๋ว ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ทำให้แต่ละนัดจ่ายภาษีไม่ครบและมีหนี้พอกขึ้นมา คงต้องให้หน่วยงานภาษีไปฟ้องล้มละลายเพื่อเรียกคืนเงินที่ค้างเอาไว้ ส่วนการเยียวยาเจ้าของม้า และ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องในธุรกิจม้าแข่งที่มีคนอยู่มากกว่า 2 แสนชีวิต ใช้วิธีไปเจรจากับสนามฝรั่ง หรือ ราชกรีฑาสโมสร บริเวณถนนอังรีดูนังต์ ขอให้จัดการแข่งขันสัปดาห์ละ 2 ครั้งเหมือนเดิม นอกจากนี้มีรายงานว่า อาจไปใช้พื้นที่ จ.นครราชสีมา จัดแข่งขันม้าแทน

ส่วนตัวเสธอ้าย จะวางมือจากวงการนี้แล้ว โดยจะลาออกในการประชุมคณะกรรมการราชตฤณมัยสมาคม ในวันนี้ (22 ก.ย.) และเสธอ้ายขอไม่เล่นการเมือง แต่ยังจะทำหน้าที่ในฐานะนายกสมาคมไทย-จีน และ ประธานเตรียมทหารรุ่น 1