ส.ป.ก.ขีดเส้น 6 เดือน จัดการ46ร้านค้า รุกที่บึงโขงหลงหมดสิ้น!

จากกรณีทีมข่าวสปริงนิวส์นำเสนอข่าวเรื่อง พื้นที่ทับซ้อน รุกคืบตรวจริมบึงโขงหลง กว่า 100 ร้าน บุกรุกป่า ซึ่งได้นำเสนอไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ที่ผ่านรมา โดยเนื้อหาระบุถึงกรณีที่มีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ล่าสุด วันนี้ (2 ต.ค.) นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก) ได้ส่งเอกสารการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากข้อมูลข่าวดังกล่าวกลับมาให้ทีมข่าว โดยระบุว่า

ด้วยมีราษฎรร้องเรียนการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จังหวัดบึงกาฬ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 8 (หาดคำสมบูรณ์) ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ตามคำสั่งจังหวัดที่ 1025 /2560 ซึ่งคณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูล กำหนดขั้นตอนวิธีการในการปฏิบัติงานในการสร้างความเข้าใจรับรู้ข้อมูลการใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 8 ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เพื่อหารือในการกำหนดแผนงานการดำเนินการเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณหาดคำสมบูรณ์โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. พื้นที่บริเวณหาดคำสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. รับมอบตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2530 ให้มาดำเนินการปฏิรูปโครงการที่จำแนกป่าดง - ซำเซกา (แปลงที่ 1-3) เนื้อที่ประมาณ 1987 ไร่และมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ. ศ. 2552 เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. บึงกาฬ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า แบ่งที่ดินรังวัดติดหาดคำสมบูรณ์มีจำนวน 36 แปลงเนื้อที่ประมาณ 375 -2-37 ไร่ มีการก่อสร้างร้านค้าอยู่ประมาณ 46 ร้าน
2. จังหวัดบึงกาฬ ได้มีคำสั่งเรื่องแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดขอบเขตที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อกิจการ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ข้อ 1.5 บ้านคำสมบูรณ์หมู่ที่ 3 ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบขอบเขตพื้นที่และการใช้พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินบ้านคำสมบูรณ์ หมู่ที่ 3 ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ พิจารณากำหนดขอบเขตที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อกิจการตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ข้อ 1.5 คณะกรรมการชุดนี้ประชุม 2 ครั้ง

ทั้งนี้ ส.ป.ก. บึงกาฬได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายแปลงแปลงข้างเคียงและผู้ปกครองท้องที่ พร้อมทั้งดำเนินการแจ้งเตือนเกษตรกรที่ดำเนินการผิดระเบียบ ส.ป.ก.ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์และภายใน 6 เดือน ส.ป.ก. บึงกาฬ จะดำเนินการสั่งให้สิ้นสิทธิกับเกษตรกรที่ผิดระเบียบ ส.ป.ก. ตามกระบวนการและขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป