กรมอุทยานแห่งชาติฯ ลงพื้นที่อ่าวมาหยา ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูระบบนิเวศชายหาดอ่าวมาหยา ล่าสุดระบบนิเวศมีการฟื้นฟู พบปะการังมีเพิ่มมากขึ้น หลังพบสาเหตุ ทรายทรุดตัว สารเคมีทำปะการังตาย
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมนายทรงธรรม ขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ และนายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารฟื้นฟูอนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช และนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ได้สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หรือเกาะพีพีและการจัดการพื้นที่บริเวณอ่าวมาหยา ว่า จากการประกาศปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 30 กันยายน 2561 และปิดอย่างไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและบริหารจัดการพื้นที่อ่าวมาหยา ให้มีประสิทธิภาพ เบื้องต้นพบว่าปะการังมีเพิ่มมากขึ้น และระบบนิเวศมีการฟื้นฟู
แต่ปัญหาที่พบก่อนหน้าที่จะประกาศปิดอ่าว พบว่า บริเวณหน้าหาดอ่าวมาหยาทรายไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเหยียบย่ำ บนหาดทรายตลอดทั้งปี ทำให้ทรายไหลลงสู่ทะเลขัดขวางกระบวนการธรรมชาติ ส่งผลให้เนินทรายหน้าชายหาดเกิดการทรุดตัวลง และเกิดจากสารจากครีมกันแดดที่ทาตัวลงไปในน้ำทะเล ทำให้ปะการังพิการและตาย
ทั้งยังเกิดจากเรือรับส่งนักท่องเที่ยว ที่จอดบริเวณหน้าหาด ที่ในแต่ละวัน มากถึง 180 ลำ ซึ่งการนำเรือเข้ามาจอดเทียบท่า ทำให้มีการกรวดทราย ตะกอนมาทับถมบนก้อนปะการัง ส่งผลให้ประการังได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอ่าวมาหยา ยังมีความกังวล เพราะยังไม่เชื่อมั่นกับการแก้ปัญหา ซึ่งชาวบ้านต้องการให้เจ้าหน้าที่ มีการกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน เพื่อผู้ประกอบการจะได้มีการวางแผนการประกอบอาชีพ เพราะมีความเป็นห่วงว่า ไม่ใช่เพียง อ่าวมาหยาเพียงอย่างเดียวที่จะฟื้นฟูระบบนิเวศ อาจจะทำให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐแก้ปัญหาในระยะยาว