svasdssvasds

แจงลือมั่ว!! เบี้ยยังชีพ “ผู้เฒ่า” ยังเท่าเดิม

แจงลือมั่ว!! เบี้ยยังชีพ “ผู้เฒ่า” ยังเท่าเดิม

นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 700 บาท อายุ 70 ปี เพิ่มเป็น 800 บาท อายุ 80 ปี เพิ่มเป็น 900 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 1,000 บาท

ขอชี้แจงกรณีกระแสข่าวลือการเพิ่มเบี้ยคนชราและข้อมูลที่คาดเคลื่อนดังกล่าวว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ยึดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.. 2552

ปัจจุบันจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังคงเป็นการจ่ายแบบขั้นบันไดคงเดิมดังนี้

อายุ 60- 69 ปี 600 บาท/เดือน

อายุ 70- 79 ปี 700 บาท/เดือน

อายุ 80- 89 ปี 800 บาท/เดือน

อายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน

สำหรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากการประชุมคณะกรรมการบริการกองทุนผู้สูงอายุครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินในโครงการมาตรการให้เงินสงเคราะห์ เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้

รายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 50 บาท/คน/เดือน

รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 100 บาท/คน/เดือน

ในวันที่ 8 ตุลาคม รัฐบาลปฏิเสธข่าว หยุดโอนเงินเข้าบัญชีหากผู้สูงอายุไม่ไปรายงานตัว พร้อมยืนยันจ่ายเบี้ยตามหลักเกณฑ์เดิม

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีการแชร์ข้อความในไลน์ว่า รัฐบาลจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 100 บาท ให้กับทุกคน และให้ผู้สูงอายุรีบนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ไปรายงานตัวที่ อบต. หรือสำนักงานเขต ภายในเดือน ต.ค.นี้ หากไม่ไปรายงานตัวจะไม่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชี ว่า

"เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนแล้วยังคงได้รับเบี้ยยังชีพตามปกติ และไม่ต้องไปรายงานตัว ส่วนยอดเงินที่ได้รับนั้นทุกคนสามารถตรวจสอบได้จากการอัพเดทบัญชีธนาคารที่ได้แจ้งไว้ หรือติดต่อที่ เทศบาล อบต. หรือสำนักงานเขต ที่ตนเองลงทะเบียน

โดยผู้ที่มีอายุ 60 - 69 ปี รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท/เดือน อายุ 70 - 79 ปี 700 บาท/เดือน อายุ 80 - 89 ปี 800 บาท/เดือน และอายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน"

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า แต่ในส่วนของผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวนกว่า 4 ล้านคน รัฐบาลได้จัดสรรเงินเพิ่มให้ 50 - 100 บาท/เดือน/ราย เนื่องจากมีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งบริจาคเงินกลับคืนกองทุนผู้สูงอายุ โดยจะจ่ายเงินทุกวันที่ 15 ของเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.61 ไปจนถึง 15 มิ.ย.62

สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 100 บาท และผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 50 บาท

"นายกฯ ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อป้องกันความสับสนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลจะดูแลผู้สูงอายุให้ดีที่สุด"

แจงลือมั่ว!! เบี้ยยังชีพ “ผู้เฒ่า” ยังเท่าเดิม

related