svasdssvasds

อย่างมันส์ ศรีวราห์สอบ อส.สารภาพ

อย่างมันส์ ศรีวราห์สอบ อส.สารภาพ

อดีต อส. รับสารภาพร่วมกะเหรี่ยง 2 คน ดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ ในพื้นที่อุทยานไทรโยค ยิงหมีขอจริง ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ สั่งเร่งหาซาก หมีขอที่เหลือ หวั่นทำสำนวนอ่อน

ความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จับกุมขบวนรถออฟโรด 6 คัน ของนายวัชรชัย สมีรักษ์ หรือปลัดแมน อดีตปลัดฝ่ายป้องกัน อำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อมพวกอีก 10 คน ก่อนตรวจค้นพบของกลางอุ้งตีนหมีขอ 4 ขา ที่เป็นสัตว์ตระกูลชะมด และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทที่ 2 พร้อมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งนั้น

วานนี้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน เป็นคนที่ 12 คือ นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ ลุงของปลัดแมน ที่อาศัยจังหวะชุลมุน ช่วงจับกุมขบวนรถออฟโรด หลบหนีไปได้ นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีกับเยาวชนชายอายุ 10 ปี หลังจาก นางสาวศรีวิจิตร ดิษแช่ม และนายทัศดนัย ขอกระโชก สองผู้ต้องหา ฝากให้เด็กคนดังกล่าว นำปืนที่พกเข้าไปในอุทยาน ไปเก็บที่บ้านพัก เป็นปืนขนาด .38 และขนาด 11 มม.อย่างละ 1 กระบอก ซึ่งประเด็นนี้เจ้าหน้าที่อุทยาน เป็นผู้ร้องทุกข์ตำรวจ เนื่องจากพบปลอกกระสุนของปืน 2 กระบอก แต่ไม่พบตัวปืน

เบื้องต้นเยาวชนชายถูกเอาผิดฐานมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง รวมถึงพกพาอาวุธปืนไปในเมืองจากนั้น

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ร่วมสอบปากคำนายอนุสรณ์ เรือนงาม อดีตเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพิทักษ์ดินแดน ด่านมะขามเตี้ย ที่ก่อนหน้านี้ให้การอ้างว่า ซื้ออุ้งตีนหมี จากชาวบ้านในราคา 100 บาท แต่ครั้งนี้นายอนุสรณ์ รับสารภาพว่า มีการยิงหมีขอจริง โดยวันเกิดเหตุได้เข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เต่าดำ

ซึ่งตนเองได้นำปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 ติดกล้อง และกระบอกเก็บเสียง 1 กระบอก ที่ยืมจากพี่ชายเข้าไปด้วย ซึ่งช่วงแรกหวังนำไปยิงแก้บน แต่เมื่อไปถึงได้เข้าป่า จะนำไปยิงไก่ป่า จุดห่างจากสำนักสงฆ์ประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยเข้าไปในป่าพร้อมนายตาต้า และนายจิระ สองชาวกะเหรี่ยง ที่เป็นเด็กดูแลสำนักสงฆ์ เนื่องจากรู้จักกันมาก่อน แต่สุดท้ายเข้าไปพบหมีขอ นายตาต้า จึงใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิง จากนั้นนายตาต้า นายจิระ และแฟนนายจิระ ชำแหละซาก ซึ่งตนหวังนำอุ้งตีนหมี 4 ขา ไปทำยาสมุนไพร ส่วนซากหมีขอที่เหลือ ไม่รู้ว่านายตาต้า นำไปทำอะไร อย่างไรก็ตามผู้ร่วมทริปทั้งหมดไม่รู้เห็นด้วย

ขณะที่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยอมรับว่า คดีนี้ทำงานยากกว่าคดีฆ่าเสือดำทุ่งใหญ่นเรศวร เนื่องจากคดีฆ่าเสือดำ มีหลักฐานจำนวนมาก แต่คดีนี้มีแค่ซากอุ้งตีนหมีขอ 4 ขา และคำรับสารภาพเท่านั้น ฉะนั้นต้องหาซากหมีขอที่เหลือให้พบ ที่มีการลงพื้นที่แล้ว 4 ครั้ง แต่ยังไม่เจอ รวมถึงต้องมีการสำรวจจุดยิงหมีขอ และนำปลอกกระสุนมาเทียบว่า ยิงมาจากปืนกระบอกใด เป็นปืนตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหาหรือไม่

ด้านตำรวจภูธรไทรโยค ได้ควบคุมตัวนายตาต้า จากสำนักสงฆ์เต่าดำ ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวน เบื้องต้นนายตาต้า รับสารภาพว่า ช่วงค่ำวันที่ 6 ตุลาคม ได้พาคนในคณะออฟโรด 2 คน ออกมาลองปืน และพอถึงต้นไทร เห็นหมีขอบนต้นไม้ ถูกสั่งให้ยิง โดยมีคนส่องไฟให้ และนำซากหมีขอประกอบอาหาร ที่บริเวณพักแรม ส่วนนายจิระ และแฟนสาว อยู่ระหว่างติดตามตัว

ปิดท้ายนางกนิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เคยตรวจพิสูจน์ซากเสือดำก่อนหน้านี้ กล่าวถึงการตรวจซากหมีขอว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจทางหลักวิทยาศาสตร์ ซากอุ้งตีนหมีขอ 4 ขา , ฟันกรามล่าง , เศษกระดูก , ขนสัตว์ป่า , มีดพร้า และมีดทำครัวต่างๆ เพื่อดูว่า ซากสัตว์ทั้งหมด เป็นสัตว์ชนิดไหน และเป็นตัวเดียวกันหรือไม่ ที่คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1 เดือน แต่จากสังเกตทางกายภาพ พบว่า อุ้งตีนสัตว์ดังกล่าว มีลักษณะคล้ายอุ้งตีนหมีขอ แต่ยังยืนยันไม่ได้ จนกว่าการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จะแล้วเสร็จ

related